ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกรัฐบาล ย้ำ เรื่องปฏิวัติ นายกรัฐมนตรีชี้แจงไปชัดเจนแล้ว มองเป็นเรื่องดีที่สถาบันพระปกเกล้าและหน่วยงานต่างๆ จะเข้ามาร่วมเสนอทางออกประเทศในคณะกรรมการสมานฉันท์ ชี้ตัวเลขเศรษฐกิจไทยดีขึ้น แม้จะยังติดลบ

อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดชัดเจนไปแล้วในวันที่มีการประชุมรัฐสภาวิสามัญที่ผ่านมา และขณะนี้ทางรัฐสภาก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ที่มาจากหลายฝ่าย ทั้ง ส.ส., ส.ว., และรัฐบาล รวมถึงผู้ที่มีความคิดเห็นต่างกันจากหลายกลุ่ม เพื่อมาหารือเจรจาหาทางออกให้กับประเทศ แต่ขณะนี้ต้องขอความชัดเจนจากทางรัฐสภาที่จะกำหนดว่าจะมีการประชุมเบื้องต้นเมื่อไหร่ รวมถึงการกำหนดตัวบุคคลที่จะเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการ

ส่วนที่มีการให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นผู้รับผิดชอบนั้น อนุชา กล่าวว่า ที่ผ่านมาในส่วนของสถาบันพระปกเกล้าเองมีส่วนในการที่จะดำเนินการหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของความขัดแย้ง ที่มีข้อเสนอแนะที่ดี ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยออกความคิดเห็น เสนอแนะแนวทาง เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันสังคมมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่จะทำอย่างไรให้ความคิดเห็นที่หลากหลายเหล่านั้นมาสรุปเป็นแนวทางในการปฏิบัติได้ในอนาคต ก็เป็นวิถีทางที่จะดำเนินการในระบอบประชาธิปไตย และเมื่อครั้งที่มีการชี้แจงต่อทูตานุทูต และองค์กรระหว่างประเทศ ก็มีคำถามในเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งก็ได้มีการสนับสนุนให้มีการเจรจา โดยนายกรัฐมนตรีเองก็พยายามให้เกิดบรรยากาศของการพูดคุยกันจะได้ไม่ต้องมีการเผชิญหน้า

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจ ที่เริ่มดีขึ้น แม้จะยังมีการลิดลบอยู่บ้าง แต่ก็ติดลบน้อยกว่าเดิม นั่นแปลว่าประเทศไทยกำลังจะออกมาจากเศรษฐกิจถดถอย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับโควิดได้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นน่าจะเป็นประเทศแรกๆ ที่เศรษฐกิจจะดีขึ้น 

นอกจากนี้ การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตของนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ก็จะมีการพูดคุยกับกลุ่มจังหวัดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อันดามัน ทั้งเรื่องของนักท่องเที่ยวที่กำลังเตรียมพร้อมให้เข้ามา และวันนี้ทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศก็มีการพูดคุยกับหลายประเทศเกี่ยวกับการจะนำเครื่องบินบินตรงมายังภูเก็ต ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีจะไปตรวจดูในเรื่องของการคัดกรองเพื่อให้ประชาชนได้มั่นใจว่าจะไม่มีการระบาดระลอกที่2 แต่ทั้งนี้คนไทยเองก็ต้องดูแลกันเองด้วย ทั้งการรักษาระยะห่าง และการใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน