ไม่พบผลการค้นหา
เสี่ยรถเบนซ์เมาแล้วขับชดใช้กว่า 45 ล้านบาทให้ครอบครัว "พ.ต.ท.จตุพร"และภรรยา ทนายเผยเจ้าตัวยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำบุญทุกวัน เลิกดื่มเหล้าและเลิกขับรถ

จากกรณีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เจ้าของบริษัทไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ เมาซิ่งรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ พุ่งชนรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว บนสะพานคลองตาปุ้น ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล ภรรยาเสียชีวิต ส่วน ด.ญ.พิชญาภา หรือน้องแพร งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุนายสมชายให้การรับสารภาพ ประกาศขอรับผิดชอบทุกอย่าง

ล่าสุด วานนี้ ( 23 พ.ค.) นายสมชาย ได้เดินทางไปพร้อมนายวีรวุฒิ บำรุงใจ ทนายความ และครอบครัวของ พ.ต.ท.จตุพร และเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยของทั้งสองฝ่าย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ศาลาแดง

นายวีรวุฒิ ทนายความของนายสมชาย กล่าวว่า ครอบครัวของ พ.ต.ท.จตุพร และนางนุชนาถ ตกลงการชดใช้ค่าเสียหาย ได้ข้อสรุปต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า ให้ดูแลค่าไร้อุปการะให้กับมารดา พ.ต.ท.จตุพร เป็นเงิน 2.5 ล้านบาท และให้ทางผู้ใหญ่ของนางนุชนาถอีก 2.5 ล้านบาท ส่วนนี้ลงบันทึกประจำวันต่อหน้าพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ส่วนลูกสาวทั้ง 2 คน จะมอบเงินให้อีกจำนวนหนึ่ง โดย น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล อายุ 15 ปี และ ด.ญ.พิชญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี ซึ่งอาการบาดเจ็บหายเป็นปกติ เดินทางไปโรงเรียนได้แล้ว จะได้คนละ 15 ล้านบาท แต่เนื่องจากทั้งคู่เป็นเยาวชนยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงต้องมีการยื่นเรื่องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางให้เป็นผู้กำหนดคนดูแลจัดการทรัพย์สินทั้งหมดของเด็กทั้งสองคนจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะและจะโอนเงินให้ทันที ซึ่งทนายความของนายสมชาย จะเดินทางไปยื่นเรื่องภายในวันนี้ (24 พ.ค.)

นายวีรวุฒิเปิดเผยอีกว่า ทุกวันนี้ นายสมชาย ยังรู้สึกผิดไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยังทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 คนทุกวัน เพราะเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ เนื่องจากนายสมชายก็มีลูกสาว 2 คน ที่ยังเรียนอยู่เช่นกัน และมารดาของพ.ต.ท. จตุพรยังเล่าว่า ลูกชายมีนิสัยชอบให้อภัยคน ลูกชายต้องให้อภัยนายสมชายอย่างแน่นอน และถ้าขึ้นศาล จะแถลงศาลว่าไม่ติดใจใดๆ

เพราะนายสมชายดูแลครอบครัวนี้อย่างดีที่สุด ดูแลทุกอย่างตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาลด.ญ.พิญาภา ประมาณ 1.5 ล้าน ซื้อรถฟอร์จูนเนอร์ใหม่ป้ายแดงให้ 1 คัน ดูแลเรื่องหนี้สินในบัตรเครดิตให้ทั้งหมด ให้ญาติทั้ง 2 ฝ่าย รวม 5 ล้านบาท ค่าดูแลเด็กอีกคนละ 15 ล้านบาท และอื่นๆ อีกรวมแล้วเกือบ 45 ล้านบาท หากลูกสาวทั้ง 2 คน ต้องการจะทำงานที่บริษัท ของนายสมชายก็พร้อมที่จะรับเข้าทำงานทันที ทุกวันนี้นายสมชายเลิกดื่มเหล้าหันมาดื่มกาแฟ เลิกขับรถ โดยมีคนขับรถให้ อยากให้เรื่องนี้จบแบบสมบูรณ์และทุกฝ่ายพอใจมากที่สุด

ด้าน ร.ต.อ.พิทักษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจส่งฟ้องนายสมชายทั้งหมด 5 ข้อหาตามเดิม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สั่งฟ้อง สาเหตุที่ล่าช้าเพราะเพิ่งสอบ ด.ญ.พิชญาภาเสร็จ ในส่วนของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงและพอใจกันตรงไหนก็ต้องลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าเจ้าพนักงานทุกครั้ง