ไม่พบผลการค้นหา
‘วรวัจน์’ ขอกระทรวงมหาดไทย-รัฐบาล ทบทวนแก้กฎหมายผังเมือง ชี้จำกัดการพัฒนา ยกตัวอย่างแพร่ ติดล็อกแม้ขยายเส้นทางรถไฟรางคู่ ก็เป็นได้เพียงทางผ่านแต่ไม่สามารถรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาของรัฐบาลได้

วันที่ 20 พ.ย. เวลา 13.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีที่หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ และประชาชน ในจังหวัดแพร่ ได้รับผลกระทบจากการกำหนดผังเมืองใหม่ในจังหวัดแพร่ ว่า พบว่ากระบวนการทำงานของกรมโยธาธิการและผังเมืองนั้น ตามกฏหมายผังเมืองใหม่ปี 2562 มีลักษณะเป็นการนำข้อมูลในอดีตมากำกับ และควบคุมการเจริญเติบโตของจังหวัดโดยที่ไม่ได้ศึกษานโยบายของรัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน มาประกอบการวางยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่เน้นเรื่องเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ รวมถึงการมองถึงอนาคตความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นเป้าหมายโดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคตที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลเช่นนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่จะอบรมสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนถึง 20,000,000 ครัวเรือน วันนี้ จังหวัดแพร่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการถูกควบคุมกำกับให้เป็นเมืองเพียงจังหวัดหัตถอุตสาหกรรมไม่สามารถพัฒนารองรับทั้งการพัฒนารถไฟทางคู่ เมืองอุตสาหกรรมไม้สักจากป่าปลูก หรือการยกระดับสินค้าเกษตรสู่อุตสาหกรรมอาหารที่ต้องมีห้องเย็นด้วยได้เลย ซึ่งข้อจำกัดต่างๆเหล่านี้ไม่ได้เกิดเพียงจังหวัดแพร่เพียงจังหวัดเดียว แต่รูปแบบการทำงานในส่วนของผังเมืองจะส่งผลกระทบไปทุกจังหวัดในประเทศไทย และกระทบต่อการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลใหม่อีกด้วย

“ผมขอให้กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาลทบทวนเกี่ยวกับกฎหมายผังเมือง และการดำเนินการตามกฏหมายผังเมืองที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์มากกว่าการพัฒนา รวมถึงปรับปรุงขั้นตอน การจัดทำ และการแก้ไข ผังเมือง ที่มีขั้นตอนที่มาก ล่าช้าไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแนวคิดการพัฒนาของรัฐบาลใหม่ครับ”

วรวัจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการดำเนินการของผังเมืองที่ตนอยากเสนอ คือ 1. การวางผังเมืองควรต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ในแต่ละจังหวัดของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ซึ่งหมายถึงการยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ระดับอุตสาหกรรมและเพื่อสร้างรายได้จากทางในประเทศและการส่งออก

2. การพัฒนาผังเมืองควร เปลี่ยนรูปแบบจากการเก็บข้อมูล เป็นรูปแบบของการประชุมระดมสมองเพื่อวางแผนพัฒนาจังหวัดกับหอการค้าสภาอุตสาหกรรมกลุ่มเกษตรกรประชาชนและหน่วยงานในจังหวัด

3. ควรนำนโยบายของรัฐบาลและข้อมูลการพัฒนาจากหน่วยงานของรัฐ ในแต่ละพื้นที่จังหวัด มาประกอบการพิจารณา จัดทำผังเมือง

4. การจัดทำผังเมืองควรมีรูปแบบที่สามารถปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้กับสภาพแวดล้อม ทางเศรษฐกิจและสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป ได้โดยง่าย

5. ควรนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศโดยเฉพาะรูปแบบที่พัฒนาเป็น Digital Twin มาใช้ ในการวางแผน จะทำให้สะดวกรวดเร็ว และสามารถพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงของเมืองได้อย่างแม่นยำ

และ 6. การปรับเปลี่ยนผังเมืองตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ควรจะมีขั้นตอนที่สามารถเร่งรัดได้เช่นการพัฒนาระบบขนส่งเย็นและห้องเย็นเพื่อรองรับการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ควรจะสามารถกำหนดได้เมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาล