ไม่พบผลการค้นหา
'เพชร กรุณพล' ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ตลาดบางเขน ไม่หวั่น 'สิระ' ฟ้อง 50 ล้านบาท ปมตัดต่อภาพ พร้อมสู้คดี ยืนยันไม่มีเจตนากล่าวให้ร้าย

เพชร - กรุณพล เทียนสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เลือกตั้งซ่อมเขต 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ตลาดบางเขน โดยมี ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก และ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล ร่วมลงพื้นที่ในวันนี้ด้วย

เพชร กรุณพล.jpg

กรุณพล กล่าวว่า หลังจากการลงพื้นที่มาสักพัก พบว่า ประชาชนให้การตอบรับดี และมีความกล้าที่จะเดินมาบอกว่ามีปัญหาอะไรที่อยากให้เข้าไปช่วยขับเคลื่อน ซึ่งในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ตนคาดหวังว่าจะชนะตั้งแต่ตัดสินใจลงสมัคร เพราะเชื่อว่าคนในเขตหลักสี่-จตุจักร ต้องการการเมืองในรูปแบบที่แตกต่างออกไป โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ ประชาธิปไตยไม่ได้เบ่งบานเต็มที่ ประชาชนทุกคนได้รับผลกระทบ มีความเป็นอยู่ที่ฝืดเคือง มีรายได้ที่ลดลง มีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น จึงทำให้รู้สึกว่า การเข้ามาเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งให้กับประชาชน จะทำให้พวกเขามีความหวังมากขึ้น

“นโยบายของพรรคก้าวไกลคือ เราไม่มีนายทุนพรรค เราไม่ยึดติดกับตำแหน่ง เราไม่กลัวทุนผูกขาด เราต้องการกระจายอำนาจ ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือการลงไปรับทราบปัญหา แล้วบอกประชาชนว่าไม่ใช่แค่ ส.ส.เท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ แต่ประชาชนก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเราก็จะมาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนตรงนี้” กรุณพล กล่าว

เพชร กรุณพล.jpg

กรุณพล ยังเปิดเผยด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 ม.ค.) ตั้งใจจะไปสมัครรับเลือกตั้งที่เขตช่วงเวลาประมาณ 07.00-07.30 น. เพื่อไปเตรียมเอกสารให้พร้อม คาดว่าตัวแทนของทุกพรรคก็คงจะเดินทางไปสมัครพร้อมๆกัน ทั้งนี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ก็จะเดินทางไปให้กำลังใจด้วย

เพชร กรุณพล.jpg

สำหรับ กรณีที่ สิระ เจนจาคะ ระบุว่า จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากพรรคก้าวไกล 50 ล้านบาทกรณีการตัดต่อภาพสิระ และสร้างความเสียหายนั้น กรุณพล ระบุว่าเป็นสิทธิ์ทางกฎหมายที่ สิระสามารถทำได้ หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ทางพรรคก็พร้อมที่จะต่อสู้คดี และยืนยันไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวให้ร้าย เพราะมีกฎหมายเลือกตั้งกำหนดไว้ชัดเจนห้ามใส่ร้ายป้ายสีหรือแจกของ ซึ่งภาพที่ปรากฏไม่ได้หมายถึงตามหาคนหาย แต่สื่อว่าต้องการอาสาสมัครมาช่วยจับตาการเลือกตั้ง เนื่องจากการเลือกตั้งในประเทศหลายครั้งเกิดข้อกังขา แต่ข้อกังขานั้นจะถูกทำให้กระจ่างขึ้นด้วยการตรวจสอบ ซึ่งพรรคการเมืองคงไม่สามารถตรวจสอบได้ครอบคลุมจึงต้องการประชาชนเข้ามาเป็นอาสาสมัคร