ไม่พบผลการค้นหา
อดีตรองนายกรัฐมนตรี ชงโมเดลแก้ปัญหาการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล ชี้ความล่าช้าสะท้อนความโปร่งใสในการบริหาร

จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอการบริหารจัดการวัคซีนโควิด19 ผ่านเฟซบุ๊กว่า จากที่ได้ติดตามการชี้แจงของรัฐบาลและการวิพากษ์วิจารณ์ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในวงต่างๆในเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ทำให้เห็นได้ว่า มาถึงขณะนี้ มีปัญหาการขาดความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือในการดำเนินการ โดยแผนการที่รัฐบาลใช้อยู่จะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์น้อยมากจากการฉีดวัคซีนที่ทั้งล่าช้าครอบคลุมน้อย 

อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะประสบปัญหาอุปสรรคแล้วไม่มีสิ่งทดแทนหรือทางเลือกสำรอง จึงไม่มีหลักประกันสำหรับความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชน รวมทั้งจะทำให้ประเทศไทยตกขบวนของการใช้วัคซีนให้เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันการแพร่ระบาดและการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหากไม่มีการแก้ไขปัญหาสำคัญดังกล่าวโดยเร็ว จะเกิดเป็นความเสียหายอย่างมหาศาลจึงมีข้อเสนอดังต่อไปนี้


  • 1.ฟื้นความเชื่อมั่นต่อกระบวนการใช้วัคซีนของประเทศให้กลับคืนมาโดยเร็ว ด้วยการทำงานอย่างโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลทุกอย่างต่อสาธารณชนและเปิดรับการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
  • 2.เข้าร่วมโครงการ COVAX เพื่อให้มีหลักประกันในการที่จะได้รับวัคซีนอย่างเพียงพอ และกระจายได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วมากขึ้น
  • 3.เปลี่ยนยุทธศาสตร์และแผนงานในการดำเนินการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 70% ภายในปี2564 นี้
  • 4.เพื่อให้เป็นไปตามแผนใหม่นี้ ต้องร่วมมือกับ WHO ดำเนินการในเชิงรุก หาวิธีรับรองวัคซีนที่ได้มาตรฐานยี่ห้อต่างๆที่ WHO และประเทศพัฒนารับรองแล้วโดยไม่จำกัดอยู่อย่างปัจจุบันให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้
  • 5.ส่งเสริมให้บริษัทเอกชนนำเข้าวัคซีนและสนับสนุนให้โรงพยาบาลเอกชนฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน โดยรัฐบาลให้การอุดหนุนออกค่าใช้จ่ายให้ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน
  • 6.ในระหว่างที่ยังไม่มีการผลิตวัคซีน AstraZeneca ในประเทศไทย ควรระดมวัคซีนยี่ห้อต่างๆเข้าประเทศมา เพื่อใช้กับผู้ที่เป็นด่านหน้าทั้งบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และภาคบริการ รวมทั้งผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อให้ได้ฉีดวัคซีนมากที่สุด
  • 7.วางแผนรองรับการใช้วัคซีนพาสปอร์ตสำหรับการเดินทางไปมาระหว่างประเทศ และเพื่อช่วยสนับสนุนการลงทุนและการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
แนะยอมรับความผิดพลาด

การจะนำพาประเทศออกจากวิกฤตนี้ได้ รัฐบาลต้องเข้าใจและยอมรับความเป็นจริงเสียก่อนว่ากำลังบริหารจัดการด้วยความผิดพลาด จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายและแผนทั้งระบบ แต่เงื่อนไขสำคัญที่จะตัดสินว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาที่มีอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความจริงใจที่จะทำงานอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมาและการพร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง การฟื้นความเชื่อมั่นด้วยวิธีง่ายๆเบื้องต้นที่รัฐบาลต้องทำให้ได้คือนายกฯและครม.จะต้องรีบฉีดวัคซีนซึ่งจะต้องเป็นชนิดเดียวกันกับที่จะฉีดให้ประชาชนทั่วไป เมื่อฉีดวัคซีนกันแล้วก็รีบแถลงยุทธศาสตร์การใช้วัคซีนของประเทศที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงใหม่ให้ประชาชนทราบต่อไป