ปี 2563 หญิงลี ศรีจุมพล นักร้องลูกทุ่งสายแซ่บ กลับมาปล่อยอัลบั้มเต็มเป็นชุดที่ 3 ใช้ชื่อว่า ‘ลำซิ่งลิซึ่ม’ มีเพลงให้แฟนๆ ได้ฟัง 10 เพลง แนวดนตรีคลุมไว้ด้วยแนว ‘ลำซิ่ง’ ชวนขาแดนซ์ขาเซิ้งสนุกร่วมกันหน้าเวที สวนกระแสการทำเพลงยุคปัจจุบัน นิยมเป็นซิงเกิ้ล หรือทีละเพลง อัปโหลดลงแพลตฟอร์มดิจิทัล
ในอัลบั้มนี้มีเพลง 'ซักงักงัก' และเพลง 'ขาขาวสาวลำซิ่ง' โกยคะแนนนิยมเอเยนซีติดโบว์แดงเป็นลูกทุ่งหญิงขวัญใจเรียกใช้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก มีงานโฆษณาไล่บี้มากับ จินตหรา พูนลาภ และลำไย ไหทองคำ เงินทองไหลมาเทมา ต่างกับศิลปินส่วนใหญ่ งานหายเงินหด ต้องเบิกบุญเก่ามากินแทบหมดบัญชีเงินฝาก แถมยังเป็นนักร้องลูกทุ่งคนแรกที่ประชาสัมพันธ์ผลงานผ่าน wrap หรือสื่อติดตั้งในขบวนรถไฟฟ้า, ดิจิทัลบนสถานีบีทีเอส และจอทีวีภายในขบวนรถไฟฟ้า
หญิงลี ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ‘ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์’ ว่า หลังตอกบัตรเป็นศิลปินค่ายแกรมมี่ โกลด์ มีชื่อเสียงจากการพาเพลง ‘ขอใจเธอแลกเบอร์โทร’ โด่งดังทั่วประเทศ ระหว่างปี 2555-2559 ชีวิตเหมือนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 มีงานโชว์ไม่เว้นวัน คิวทองต้องจองตัวข้ามปี หาเงินได้มากกว่า 50 ล้านแบบไม่มีเวลาใช้
พอเข้าปี 2560 มารดาประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เธอล้มป่วยด้วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง หน้าบวม ขาลีบ มีผลมาจากต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ บวกกับอกหักรักคุดระหว่างรักษาตัว ส่งผลให้เส้นทางศิลปินพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ
"อาการหนักถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ เหมือนตกดิ่งสุดในชีวิต อยู่หุบเหวลึกๆ แคบๆ มืดๆ มีผู้คนมากมายเดินอยู่ในยิมฟิตเนส แต่ทำไมฉันเหมือนอยู่คนเดียว มืดมนไปหมด"
หญิงลี ระบุว่า 3 เรื่องหนักๆ บวกกับได้ยินคำหมิ่นทิ่มแทงหัวใจ "หมดความสง่างามไม่น่ากลับมายืนแถวหน้าของวงการได้อีก" ทำให้เป็นโรคซึมเศร้า มีสภาวะนำไปสู่การฆ่าตัวตาย กว่าจะก้าวข้ามผ่านวิกฤตมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเป็นคนอื่นอาจถอดใจไปแล้ว
"ช่วงนั้นมันท้อมากเหลือเกิน เศร้าใจ บางครั้งก็มีน้ำตาไหล มองถึงจุดที่ตัวเองลำบากเทียวเข้าโรงจำนำ ในวันนี้มีทุกอย่าง หญิงลีจะมาซึมเศร้าทำไม ถ้าเธออยากตาย ถ้าเธอตายไป ใครจะภูมิใจในตัวเธอ ตัวเธอเองภูมิใจไหม เสียใจกับเรื่องอะไร ถามตัวเอง เสียใจกับเรื่องความรักหรอ หนามยอกก็ต้องเอาหนามบ่งนะหญิงลี มีคนมาคุยมาจีบ หญิงลีคุยสิเพื่อที่จะเป็นแรงใจให้ตัวเอง เลิกหรือตัดใจในจุดที่ตัวเองผิดหวังได้"
วันนี้ หญิงลี จึงรู้สึกดีใจมากเหลือเกินที่สามารถเรียกฟอร์มสวย กลับมาแซ่บต่อได้ หลังเครื่องสะดุดไปกว่า 2 ปี หวังว่าเรื่องของเธอจะช่วยเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ ให้กับคนที่กำลังย่อท้อ กลับมามีกำลังอีกครั้ง
"โชคดีที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส ในขณะที่แฟนคลับยังติดตามผลงานเหนียวแน่น" เธอบอก
"หลายๆ คนก็เชื่อมั่นในตัวหญิงลีจ้างคอนเสิร์ตอีกเยอะแยะ หรือมีสินค้าหลายๆ ตัวที่ให้ความไว้วางใจหญิงลีให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำให้มีความมั่นใจขึ้น ภูมิใจดีใจที่ตัวเองกลับมา ได้ยืนอยู่จุดนี้อีกค่ะ"
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเจ็บปวดปางตายทั้งทางกายและทางใจ คือ 'ชื่อเสียงเงินทองเมื่อหมดลมหายใจก็เอาไปไม่ได้' เป็นสัจธรรมชีวิตมนุษย์ทุกคน วันนี้จึงปลงและปล่อยวาง ไม่แข่งขันกับใคร คำนึงถึงความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตมากขึ้น
มีความสุขกับการได้เห็นรุ่นน้องแจ้งเกิดขึ้นมาประดับวงการหลายดวง มองว่าเป็นเรื่องที่ดี มีคนช่วยสร้างสีสัน ทำให้วงการเพลงลูกทุ่งเฟื่องฟู ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษต่อเนื่อง เหมือนยุคหนึ่งเธอเคยสัมผัสประสบการณ์นั้น
ส่วนตัวเธอหากไม่ล้มหมอนนอนเสื่ออีก ก็จะร้องเพลงต่อไป รอวันอิ่มตัวถอยไปอยู่กับธรรมชาติ ปลูกผัก ปลูกถั่ว ควบคู่กับการดูแลรีสอร์ตหญิงลีลั้ลลา ที่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด
"แม้แต่ความเจ็บป่วยที่จะถึงแก่ชีวิตก็ผ่านมาแล้ว หัวใจจะล้มเหลว ฉันจะตายแล้วนะ ฉันจะไปที่ไหน สมบัติที่มีจะให้ใคร มันถึงวินาที ที่จะใจขาดแล้ว แต่ทุกอย่างกลับมาได้ หญิงก็เลยมีความสุขในวันนี้ค่ะ ความสุขที่แท้จริง คือการปล่อยวาง และช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการให้ ใครขออะไรให้หมดเลย โดยเฉพาะลูกน้องทีมงานที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน ไม่มีทุกคนหญิงลีก็ไม่ได้อยู่จุดนี้ ความสุขคือสิ่งรอบตัว อยู่ใกล้ๆ ตัวเลยนะคะ"หญิงลี บอกเล่า