ไม่พบผลการค้นหา
“การเยือนไต้หวันของคณะผู้แทนรัฐสภาของเรา เป็นเกียรติแก่ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของอเมริกาในการสนับสนุนประชาธิปไตยที่สดใสของไต้หวัน” แนนซี เพโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ กล่าวถึงการเดินทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการ 2 ส.ค. 2565

แนนซี เพโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ เดินทางถึงไต้หวันอย่างเป็นทางการแล้วในคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยนับเป็นการเดินทางเยือนไต้หวันของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ อันดับสาม รองจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบ 25 ปี ทั้งนี้ เพโลซียืนยันว่าการเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกว่าสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนไต้หวัน โดยเฉพาะในประเด็นการเป็นชาติที่ถือคุณค่าประชาธิปไตยร่วมกัน

“การเยือนไต้หวันของคณะผู้แทนรัฐสภาของเรา เป็นเกียรติแก่ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของอเมริกาในการสนับสนุนประชาธิปไตยที่สดใสของไต้หวัน” เพโลซีระบุ

“การมาเยือนของเราเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางขยายวงกว้างไปยังอินโดแปซิฟิก รวมถึงสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยมุ่งเน้นในประเด็นการรักษาความมั่นคงร่วมกัน หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ และธรรมาภิบาลในระบอบประชาธิปไตย การสนทนากับผู้นำไต้หวันจะเน้นที่การยืนยันอีกครั้งว่า เราสนับสนุนพันธมิตรของเรา และส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันของเรา ซึ่งรวมถึงการพัฒนาภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของอเมริกากับชาวไต้หวัน 23 ล้านคน มีความสำคัญมากกว่าที่เคย เนื่องจากโลกกำลังเผชิญกับทางเลือกระหว่างระบอบเผด็จการและประชาธิปไตย” แถลงการณ์ของเพโลซีระบุ

ทั้งนี้ เพโลซีมีกำหนดการเข้าพบและหารือกับ ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน และฝ่ายนิติบัญญัติของไต้หวันในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) เพื่อพูดคุยและหารือในประเด็นความมั่นคงร่วมกัน หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ และธรรมาภิบาลในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถูกมองว่าไต้หวันกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งอ้างว่าตนมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของไต้หวัน แม้ว่าไต้หวันจะสามารถปกครองตนเองมาได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์และพรรคก๊กมินตั๋ง โดยหลังจากการหารือกับผู้นำไต้หวัน เพโลซีจะเดินทางต่อไปยังเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในการเดินทางเยือนเอเชียครั้งนี้

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของเพโลซีย้ำว่า “การเยือนของเราเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนรัฐสภาหลายแห่ง ที่เดินทางมายังไต้หวัน และไม่ขัดแย้งกับนโยบายของสหรัฐอเมริกาที่มีมาช้านาน ตามแนวทางของรัฐบัญญัติความสัมพันธ์ไต้หวันปี 1979 แถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และ หลักประกัน 6 ประการ สหรัฐฯ ยังคงต่อต้านความพยายามฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่”

สหรัฐฯ ยืนยันว่า ตนยังคงยืดถือแนวทางนโยบายจีนเดียวที่จีนแผ่นดินใหญ่ยึดถือ อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ยังคงรักษาความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการกับทางไต้หวันมาโดยตลอด อีกทั้งยังคอยส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ไต้หวัน เพื่อใช้ในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคาม โดยเฉพาะจีนคอมมิวนิสต์ ซึ่งสหรัฐฯ กับไต้หวันได้ทำข้อตกลงร่วมกันเอาไว้ ก่อนที่สหรัฐฯ จะหันไปรับรองสถานะรัฐอย่างเป็นทางการหนึ่งเดียวให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์จีนบนแผ่นดินใหญ่ในปี 2522 และตัดความสัมพันธ์ทางการกับสาธารณรัฐจีน หรือไต้หวันเอง

อย่างไรก็ดี หวางอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกแถลงการณ์โดยอ้อมซึ่งไม่ระบุถึงชื่อว่า นักการเมืองสหรัฐฯ ที่ “เล่นกับไฟ” ในประเด็นไต้หวันจะ “ไม่พบกับจุดจบที่ดี” จากการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน ทั้งนี้ หวางอี้ไม่ได้ระบุว่าตนหมายถึงเพโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้โดยตรง ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันโพสต์ภาพพร้อมข้อความแสดงความยินดีต้อนรับต่อการมาเยือนของเพโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ ในรอบ 25 ปี นับตั้งแต่อดีตประธานรัฐสภาคนก่อนเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อปี 2540


ที่มา:

https://www.speaker.gov/newsroom/8222-2?fbclid=IwAR2H9ALhKmojjXCyH9UdAAC-y9Zvuu7f4TwrdRI23G3iGsdY6TWx382Co2o