สหรัฐ ฯ กระตุ้นให้ชาวอเมริกันรับการฉีดวัคซีนเนื่องจากอัตราการฉีดในประเทศตกต่ำลงมากกว่าครึ่ง เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดในบางมลรัฐและระบาดในกลุ่มคนที่ยังไม่รับวัคซีน ประชาชนที่ต่อต้านวัคซีนมีสาเหตุมาจากความต้องการสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติและกังวลถึงอันตรายของสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้ามาในร่างกาย ซึ่งกระแสต่อต้านวัคซีนนี้ยังปรากฏในประเทศฝรั่งเศสด้วยเหตุผลที่คล้ายกัน

อัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐ ฯ ปัจจุบันมีอัตราที่ลดลงมากกว่าครึ่ง โดยช่วงก่อนเดือนเมษายน อเมริกามีอัตราการฉีดวัคซีนที่มากถึง 3,500,000 โดสต่อวัน แต่หลังจากเดือนเมษายนเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน อัตราการฉีดวัคซีนลดลงเหลือเพียง 500,000 โดสต่อวัน ทำให้สหรัฐ ฯ กำลังเผชิญปัญหาที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งสหรัฐ ฯ เผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และจำนวนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 

ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มีสาเหตุจากวัคซีนไม่เพียงพอแต่อย่างใด เนื่องจากโจ ไบเดน ประธานาธิบดี เคยออกนโยบายกระตุ้นให้ประชาชนฉีดวัคซีนอย่างมากเนื่องจากรัฐบาลจัดหาให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังบริจาควัคซีนให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงแสดงความเห็นว่า ปัญหาการฉีดวัคซีนที่ช้าลงเกิดจากกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวที่ร่างกายแข็งแรงดี ทำให้ไม่มีความเร่งรีบที่ต้องรับวัคซีน ซึ่งประชากรกลุ่มนี้มักกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของสุขภาพและการรับวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย 

เจนิเฟอร์ เคทส์ (Jennifer Kates) รองผู้อำนวยการสถาบันครอบครัวไกเซอร์ (Kaiser Family Foundation) กล่าวถึงอีกสาเหตุของการที่มีคนไม่ฉีดวัคซีนว่า “บางคนกังวลต่อความปลอดภัย และพวกเขาพูดว่าอาจจะรับวัคซีนเมื่อวัคซีนถูกรับรอง ไม่ใช่แค่อนุญาต” ใน สหรัฐ ฯ ยังไม่มีรับรองวัคซีนอย่างเป็นทางการ แต่รัฐอนุญาตให้ใช้ได้เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เคทส์ยังระบุเพิ่มเติมว่า “อัตราส่วนกว่า 20% พูดว่าจะไม่มีทางรับวัคซีน จะรับเฉพาะถ้านายจ้างร้องขอเท่านั้น”

นอกจากนี้รัฐบาลทำเนียบขาวยังเผยว่า มีข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิดจำนวนมากอยู่บนโลกออนไลน์ เช่น วัคซีนจะถูกใช้เป็นไมโครชิพเพื่อติดตามตัวไปตลอด ซึ่งโพลแสดงว่ามีชาวอเมริกันจำนวน 1 ใน 5 ที่เชื่อทฤษฎีนี้ โพลยังชี้ว่าผู้ที่ไม่รับวัคซีนมักเป็นกลุ่มที่มีแนวคิดทางการเมืองแบบขวา ด้านปีเตอร์ โฮทซ์ (Prof. Peter Hoetz) ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขโลกระบุว่า เหตุผลที่คนฝ่ายขวาไม่ยอมฉีดวัคซีนคือการท้าทายรัฐบาลฝ่ายซ้าย ไปพร้อม ๆ การแบ่งแยกทางการเมือง

ฝรั่งเศสต้านวัคซีนลามหนัก

ขณะเดียวที่อีกมุมโลก ณ ประเทศฝรั่งเศส กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการฉีดวัคซีนมีบางเหตุผลที่คล้ายกับชาวอเมริกันในเรื่องสุขภาพ โดยการประท้วง ณ กรุงปารีสเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้รัฐบาล “อย่ายุ่งกับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ” ของประชาชน มีรายงานด้วยว่า กระแสต้านวัคซีนในฝรั่งเศสยังพบว่าลามหนัก ประชาชนรวมตัวประท้วง บางส่วนถึงขั้นบุกทำลายศูนย์ฉีดวัคซีน

รัฐบาลฝรั่งเศสออกมาตรการ Health Pass โดยประชาชนที่จะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ หรือสระว่ายน้ำ ต้องแสดงเอกสารหรือ QR code รับรองการฉีดวัคซีนแล้ว ไม่เช่นนั้นจะถูกปฏิเสธการเข้าใช้บริการ ซึ่งต่อมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการลิดรอนให้กลุ่มที่คัดค้านการรับวัคซีนให้ต้องฉีดวัคซีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  

เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า วัคซีนคือหนทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับโควิด-19 และดึงประเทศกลับไปสู่ความเป็นปกติ โดยจากจำนวนผู้ติดเชื้อของการระบาดระลอกล่าสุด กว่า 96% ของผู้ติดเชื้อยังไม่ได้รับวัคซีน มาครงจึงเชิญชวนให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนเพื่อเปิดหนทางไปสู่วิถีชีวิตอย่างที่เคยเป็นได้

ที่มา: BBC , The Atlantic Times , Reuters , ABC News