สื่อจีนรายงานว่าในเขตชุมนุมอันฝูย่วน เขตชางผิง กรุงปักกิ่ง บ้านเรือนแต่ละหลังจะมีถังขยะสีเขียวที่มีคิวอาร์โค้ด (QR code) ติดไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บขยะมาเก็บพร้อมทั้งตรวจวัดน้ำหนักและบันทึกคะแนนความประพฤติของประชาชนลงระบบ โดยมีคิวอาร์โค้ดระบุตัวตนของเจ้าของถังขยะใบนั้น
ทั้งนี้คะแนนที่ได้จากการแยกขยะแล้วนำขยะมาทิ้งอย่างถูกวิธีนั้นก็จะได้รับการบันทึกไว้ผ่านคิวอาร์โค้ด ซึ่งสามารถนำคะแนนดังกล่าวไปรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
รายงานของบริษัทเอสเซนส์ ซีคีริตีซ์ (Essence Securities) ระบุว่า ภายในปี 2020 จีนจะมีขยะเศษอาหารในปริมาณมากถึง 110.7 ล้านตันทั้งจากภาคอุตสาหกรรมอาหารและจากภาคครัวเรือน
เมื่อปี 2017 คณะมนตรีแห่งรัฐของจีนให้คำมั่นว่า ภายในปี 2020 สัดส่วนการใช้ประโยชน์จากขยะรีไซเคิลในครัวเรือนของจีนจะแตะที่ร้อยละ 35 และจะมีเมืองที่ต้องนำร่องบังคับใช้กฎการจำแนกขยะครัวเรือนถึง 46 เมือง ซึ่งเมืองใหญ่อย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ต่างเป็นเมืองต้นแบบของการแยกขยะเพื่อนำไปรีไซเคิล
ขณะที่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ รัฐบาลท้องถิ่นได้บังคับให้ทุกครัวเรือมีการแยกขยะในถังขยะประเภทต่างๆที่ทางรัฐบาลท้องถิ่นจัดไว้ให้โดยแบ่งเป็นถังขยะที่มีขยะไม่ได้ใส่ถุง และ ขยะจากอาหารที่ต้องกำจัดที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้ประชาชนหากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับ 200 หยวน และหากเป็นระดับบริษัทหรือร้านอาหารจะถูกปรับตั้งแต่ 50,000 -500,000 หยวน นอกจากนี้หากชุมชนใดไม่ปฏิบัติตามกฎ เจ้าหน้าที่จะไม่เข้าไปทำความสะอาดหรือเก็บขยะในชุมชนนั้น
จีนเป็นประเทศหนึ่งที่หันมาใส่ใจกับนโยบายเรื่องการคัดแยกขยะและการรีไซเคิลขยะ ที่ผ่านมาจีนออกมาประกาศไม่รับขยะจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆ เข้ามากำจัดหรือรีไซเคิลในประเทศเพิ่ม และหันมาใส่ใจกับการกำจัดขยะภายในประเทศแทน โดยมาตรการของจีนนั้นทำควบคู่ไปกับระบบการให้คะแนนพฤติกรรมของประชาชน เพื่อเป็นการปรับพฤติกรรมของคนในสังคมจีนเอง