ไม่พบผลการค้นหา
"รองนายกรัฐมนตรี" ย้ำ 8 ปีวาระนายกฯ ยังไม่รีบคิด ออกตัวหากถึงเวลาสะกิด "บิ๊กตู่" เอง แจงแทนนายกฯ 5 ปี ไม่ได้ขออยู่ต่อแต่เป็นกรอบปฏิรูป

ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มอบหมายให้ดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯว่า ยังไม่มีคำตอบอะไร นายกฯมอบหมายให้ตนไปดูเรื่องนี้แล้ว แต่ตนยังไม่ได้ดูและยังไม่ต้องทำอะไรในเวลานี้ รวมถึงนายกฯยังไม่มีกำหนดให้แจ้งผลการศึกษาเวลาใด ให้เฉยๆไปก่อน และเมื่อตนยังไม่ได้แจ้งผลกับนายกฯ จะมาบอกสื่อได้อย่างไร

พร้อมกันนี้วิษณุ ได้กล่าวติดตลกว่า "หากเมื่อไหร่ถึงเวลาผมจะสะกิดนายกฯว่า ครบแล้วครับไปเถอะ" อย่างไรก็ตามประเด็นที่ว่ามานี้ยังทำอะไรไม่ได้เลยที่จะทำให้เกิดความชัดเจนและน่าเชื่อถือ แม้แต่การส่งศาลรัฐธรรมนูญตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้

เมื่อถามว่าเรื่องนี้ต้องมีความชัดเจนก่อนเดือน ส.ค. ปี 65 ที่จะครบการดำรงค์ตำแหน่ง 8 ปี หากนับตั้งแต่ปี 57 ที่เข้ามาเป็นนายกฯสมัยแรกใช่หรือไม่ถึงจะแจ้งนายกฯ วิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ยังไม่เคยคิดอะไรทั้งนั้น และขอยืนยันว่าตนไม่เคยออกมาระบุว่าการดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ จะนับตั้งแต่เมื่อใดเพราะยังไม่ถึงเวลา และถ้าหากจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก็มีโอกาสยื่นได้ก่อนเดือนส.ค. 65 แต่ไม่ใช่ยื่นตอนนี้เพราะถ้ายื่นตอนนี้ศาลก็บอกว่ายื่นไปทำไม และตนไม่อยากจะพูดอะไรมากเพราะไม่อยากเปิดประเด็นในตอนนี้เนื่องจากไม่มีประโยชน์อะไร หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้ในตอนนี้ 

เมื่อถามว่าประเด็นนี้ต้องชัดเจนก่อนการเสนอแคนดิเดตนายกฯในการเลือกตั้งครั้งต่อไปใช่หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้และไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น เมื่อถามว่ากรณีที่นายกฯไปพูดที่นครศรีธรรมราชว่าให้รอดูผลงานอีก 5 ปี หมายความว่าอย่างไร วิษณุ ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้อธิบายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่อีก 5 ปี กระแสที่ออกมาไปบิดเบือน สิ่งที่ท่านจะสื่อสารคือ นโยบายต่างๆที่ได้ทำไปจะเห็นผลในอีก 5 ปี จะเห็นผล และสิ่งที่ท่านพูดถึงกรอบเวลา 5 ปี นั้นเป็นวงรอบของกรอบแผนปฏิรูป ไม่ได้ให้นับ 5 ปี จากปัจจุบัน


"วิษณุ" เรียก กกต. ถามจะยกร่างกม.ลูกเกี่ยวกับเลือกตั้งหรือไม่

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้สอดคล้องกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนเห็นนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่าพรรคพลังประชารัฐเตรียมยกร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งนี้ผู้ที่จะเสนอกฎหมายได้มี 2 ประเภท คือ คณะรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ส.ส. โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของ กกต.

ทั้งนี้หากพรรคพลังประชารัฐดำเนินการเรื่องดังกล่าวก็อาจเกิดปัญหาขึ้นเพราะการเลือกตั้งจะกระทบกับทุกพรรค ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐต้องไปสอบถามพรรคต่างๆทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลว่าเห็นชอบกับร่างที่จะเสนอหรือไม่ ไม่เช่นนั้นมันร่วมหัวลงโลงกันไม่ได้เดี๋ยวจะล่มในสภาฯ หรือต่างคนต่างยกร่างเสนอกันเองก็ได้ แต่ในส่วนของรัฐบาล คณะรัฐมนตรีมีมติไปแล้วให้สอบถาม กกต.ว่าจะรับทำเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ถ้าส่งมารัฐบาลจะเป็นผู้เสนอสภาฯ

ภายในสัปดาห์นี้ตนได้เชิญเลขาธิการกกต.มาพบเพื่อหารือและสอบถามว่าจะดำเนินการหรือไม่ หรือจะให้ส.ส.เขาทำ ถ้ากกต.จะทำไทม์ไลน์จะเป็นอย่างไร ทำเมื่อไหร่ เพราะต้องรับฟังความเห็นจากประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 แตกต่างจากการยกร่างของส.ส.ที่ไม่ต้องดำเนินการขั้นตอนดังกล่าว และกกต.จะนำเสนอรัฐบาลเพื่อนำเข้าสภาฯได้เมื่อใด ซึ่งแน่นอนต้องทำภายหลังรัฐธรรมนูญมีการประกาศใช้เสียก่อนถึงจะเสนอได้ แต่ถ้าเตรียมทุกอย่างไว้ในมือ เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศก็เสอนสภาได้เลย 

เมื่อถามว่าหากกกต.จะดำเนินการในเรื่องนี้ ร่างของกกต.จะเป็นร่างหลักใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากร่างของกกต. ยังฟังความคิดเห็นอยู่ แต่ร่างของส.ส.เข้าสู่สภาฯได้และประธานสภาบรรจุเป็นวาระก็จะได้พิจารณาก่อน เพราะร่างของรัฐบาลตามไปไม่ทัน ดังนั้นไทม์ไลน์ตรงนี้สำคัญจึงต้องเชิญเลขาฯกกต.มาหารือ เมื่อถามว่าเวลาในการพิจารณากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งจะใช้เท่าไหร่ วิษณุ กล่าวว่า เมื่อแก้ไม่มากก็ไม่น่าจะใช้เวลานาน

และรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมรัฐสภา ใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือน และความจริงก็ไม่น่าจะถึงเมื่อทำเสร็จก็ต้องส่งให้กกต.ดูอีกครั้ง ส่วนจะให้ระบุตอนนี้ว่าต้องใช้เวลากี่เดือนนั้นยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่เห็นว่ามีกี่มาตรา และหากกฎหมายผ่านก็ต้องมีขั้นตอนเรื่องการทูลเกล้าฯอีก 3 เดือน เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นเช่นนี้ต้องใช้เวลาอีกนานถึงจะมีความพร้อมในการเลือกตั้งได้ นายวิษณุ กล่าวว่า "อันนั้นสื่อพูดตนไม่รู้ เก่งสรุปได้ขอให้คะแนน สรุปเป็นใช่ได้"  

เมื่อถามอีกว่า หากรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว แต่กฎหมายลูกยังไม่มีผลบังคับใช้เกิดมีการยุบสภาฯขึ้นมาแล้วมีการเลือกตั้งจะใช้กฎหมายอะไร วิษณุ กล่าวว่า ต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ แต่ยอมรับว่าจะยุ่ง เมื่อถามว่า คำว่ายุ่งหมายความว่าไม่รู้จะนับคะแนนแบบไหนใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่าใช่ แต่ก็มีทางออก ซึ่งสิ่งที่สื่อถามว่ารัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว กฎหมายลูกยังไม่เสร็จ จะทำอย่างไร ก็ต้องบอกว่าต้องใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่จะนับคะแนนอย่างไรปัญหามันเล็กลงมาแล้ว มีวิธีแก้

ซึ่งคิดไว้แล้วแต่ไม่บอก ทุกสถานการณ์สามารถเกิดขึ้นได้ ขณะเดียวกันยอมรับว่าถ้าวันนี้ยุบสภาโดยที่รัฐธรรมนูญยังไม่ใช่ถือว่าง่ายกว่า เมื่อถามว่ามีสูตรคำนวนส.ส.อีกหลายสูตรหรือไม่ที่ต้องหยิบมาพิจารณา นายวิษณุ กล่าวว่า อันนี้จริงๆเป็นความจริงจะโยนให้กกต.และรัฐบาลและส.ส.ไปคิดเพราะเขามีสิทธิ์เสนอกฎหมายรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ เมื่อถามว่าการเลือกตั้งรอบหน้าการคำนวนส.ส.ควรชัดเจนและเข้าใจกันทั้งประเทศหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ที่อุตส่าห์แก้กันมาเป็นบัติเลือกตั้งสองใบก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจมันไม่ควรที่จะทะเลาะกันเรื่องกติกา