นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ว่าที่ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นต่อการทำหน้าที่ของ กกต.ว่า กกต.ทุกท่านล้วนผ่านตำแหน่ง หน้าที่สำคัญในองค์กรครั้งรับราชการบ้าง ทำงานเอกชนบ้าง บางท่านผมเคยทำงานร่วมในองค์กรเดียวกัน เห็นหน้า เห็นหลัง เห็นฝีมือกันอยู่ จึงเป็นห่วงไม่อยากให้คุณงามความดีที่สร้างสมไว้ มาเสียหายในช่วงบั้นปลายของการทำงาน เมื่อ กกต.เป็นตำบลกระสุนตก จึงอยากจะให้กำลังใจ ด้วยการขอให้ท่านนำความยุติธรรม ความสุจริต เป็นเกราะกำบังตนเองให้พ้นภัย อย่าเอามือไปซุกหีบเด็ดขาด หากมือขาด ไม่มีใครช่วยท่านได้
อย่างไรก็ดี ขอฝากข้อสังเกตต่อประเด็นร้อนในมือ กกต. 2 ประเด็น ดังนี้
1. เมื่อศาล รธน.วินิจฉัยให้กกต.ทำหน้าที่ของตนเองในการคำนวณสูตรปาร์ตี้ลิสต์ จึงเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัย จึงขอฝากข้อสังเกตมายัง กกต. เพื่อพิจารณาตัดกระแสข่าวลือว่า กกต.จะส่งประเด็นสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ไปให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อเป็นช่องทางไปยังศาล รธน. วินิจฉัยอีก โดย กกต.ควรดำเนินการเองตามอำนาจ หน้าที่สำหรับสูตรการคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ นั้น ผมก็มีความเห็นเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ที่เคยทั้งออกแถลงการณ์ และมีหนังสือยืนยันความเห็นไปยัง กกต.ให้ยึด รธน.มาตรา 91 และ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 เป็นหลักมีสาระสำคัญโดยสรุป ที่ห้ามมิให้จัดสรรที่นั่งให้แก่พรรคการเมืองที่ไม่มี ส.ส.ที่พึงมีตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้ กกต.ควรฟังความเห็นจากภาคส่วนอื่นที่มีน้ำหนักประกอบการตัดสินใจ นับแต่ปัจเจกบุคคลที่เป็นราชบัณฑิตทางคณิตศาสตร์ สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาจำนวนมาก สถาบัน TDRI นักวิชาการอิสระ ฯลฯ เป็นต้น ล้วนมีเหตุผลไม่สนับสนุนการจัดสรรที่นั่งให้กับพรรคการเมืองที่ได้คะแนนต่ำกว่า 71,000 คะแนนทั้งสิ้น
2. ประเด็นการตรวจสอบการทุจริตในการเลือกตั้ง ขอให้ กกต.พิจารณาองค์ประกอบอื่นในภาพรวมนอกเหนือจากข้อกฎหมายด้วย มิเช่นนั้น กกต.ก็จะถูกมองว่า เลือกปฏิบัติ ยกตัวอย่าง องค์ประกอบอื่นที่คนทั้งประเทศเห็น เช่น มีการตั้งพรรคการเมืองเพื่อมารองรับการสืบทอดอำนาจ ทั้ง ๆ ที่ผู้มีอำนาจแถลงแล้ว แถลงอีก ว่าจะปฏิรูปการเมือง ยุทธชาติชาติ 20 ปี ก็กำหนดว่า จะปฏิรูปการเมือง แต่ในข้อเท็จจริงมีการตั้งพรรคการเมืองเพื่อรองรับการสืบทอดอำนาจดังกล่าว หรือไม่ วิญญูชนทราบดี
นอกจากนี้ มีพฤติการณ์ใช้พลังดูดอย่างรุนแรงในการดูดนักการเมืองจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ไปรวมกันหรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ก็ทราบดี ซึ่งไม่ใช่การปฏิรูปการเมืองอย่างแน่นอนประการสำคัญ ในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ประชาชนทั่วไปทราบดีว่า มีพรรคการเมืองที่ใช้พลังดูด ใช้เงินในการเลือกตั้งมากมายมหาศาล สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นพรรคพลังดูด กกต. ก็ควรจะรู้ข้อมูลเท่ากับประขาชนทั่วไป ไม่เช่นนั้นไม่อาจรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและประเทศได้
สำหรับการเร่งรัดสอย ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ในเวลาเพียง 7 วันนับแต่รับคำร้อง ด้วยข้อหาถวายเงินทำบุญ 2,000 บาท แก่พระภิกษุ เทียบไม่ได้เลยกับการจัดโต๊ะจีน เพื่อหาทุนเข้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวอื้อฉาวใหญ่โต มีการโฆษณาก่อนจัดงานว่าจะได้เงินจำนวนนับร้อยล้านเมื่อมีผู้ร้องเรียนว่า ใช้อำนาจอิทธิพลให้ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจซื้อโต๊ะบริจาค กกต.ก็ตรวจสอบและแถลงว่า ไม่มีการใช้เงินจากต่างชาติ
ซึ่งเป็นการตอบไม่ตรงกับคำถาม หรือข้อสงสัยที่เป็นประเด็นของสังคม การตรวจสอบของ กกต.จึงไม่คลายข้อสงสัย ไม่สิ้นกระแสความ ประการสำคัญ มีรายงานข่าวว่า มีการชี้ช่องว่า เงินซื้อโต๊ะจีนยังไม่เข้าบัญชีพรรค ถือว่าไม่ผิดนั้น นับว่าค้านกับความเห็นประชาชนทึ่ตืดตามเรื่องนี้อย่างยิ่ง หาก กกต.ต้องการความเชือมั่น ต้องการออกจากตำบลกระสุนตก ต้องรีบดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบคอบเป็นธรรม ตรงไปตรงมา
ดังนั้น จึงขอฝากเป็นข้อสังเกต และให้กำลังใจไปพร้อม ๆ กันว่า ขอให้ กกต.รักษาความยุติธรรมและความสุจริตเป็นที่ตั้ง ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ก็จะเป็นเกราะคุ้มครองท่านให้ปลอดภัย ประการสำคัญจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับ กกต.ที่เป็นองค์กรอิสระ ที่เป็นกลาง รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศและชาวโลกในภาพรวมสืบไป