วันที่ 20 มิ.ย.ที่องค์การทหารผ่านศึก(อผศ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาทหารผ่านศึกครั้งที่ 2/2565 โดยภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องที่มีประชาชน ได้รับผลกระทบจากกัญชา ว่า ที่มีผลกระทบก็ทราบอยู่แล้ว วันนี้ก็ตั้งคณะกรรมการมาแล้ว มีรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ระหว่างที่รอ พ.ร.บ.ยังไม่ออก ซึ่งก็มีกฎกระทรวงออกมาหลายตัว สิ่งสำคัญคือสื่อ จะต้องช่วยด้วยในเรื่องของการระมัดระวัง ว่าสิ่งไหนใช้ได้ สิ่งไหนใช้ไม่ได้ และวันนี้ก็มีบทลงโทษที่ออกมา เช่น การสร้างความรำคาญ ในสิ่งที่เขาไม่ให้ทำแล้วยังไปทำ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีได้ อย่างน้อยก็เสียค่าปรับ
"ทุกอย่างต้องสร้างความเข้าใจ ว่าจะทำอะไรก็ตาม มีทั้งวิกฤตและโอกาส เพราะเรามุ่งหวังให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ที่เห็นชอบมาด้วยกันทั้งคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ต้องสร้างความเข้าใจ และต้องเตือนว่าใครไม่เคยใช้ก็อย่าไปลองใช้ อย่าไปลองสูบ เพราะมีผลต่อสุขภาพ ซึ่งก็ได้พูดกันไปแล้ว ว่าจะส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร ส่งผลต่อสมอง ทำให้เสียหายอย่างไร แพ้อย่างไร และในส่วนของพ.ร.บ. ก็จะมีบทลงโทษอีกมากมาย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีกสักระยะในการทำความเข้าใจ หากมองอีกด้านหนึ่งว่าผลดี มีอะไรบ้าง ก็ให้ไปชั่งน้ำหนักกันเอาเอง"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจ ที่จะฟื้นตัวได้คือเรื่องของจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เราก็ต้องไปแก้ปัญหาหน้างาน เช่นด่านตรวจคนเข้าออกเมือง สนามบิน เพื่อหารายได้เข้าประเทศและจะมีผลต่อผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ ผู้ค้าขายเป็นห่วงโซ่ ให้มีอาชีพที่ดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจฐานล่างเข้มแข็งขึ้นพอสมควร ก็คาดหวังอย่างนั้น จึงบอกว่าไม่อยากให้กลับมาอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราเจอปัญหามาทั้งปีแล้ว
ในเรื่องของโควิด-19 เราก็ได้รับคำชื่นชมมา ที่ทำได้ดี ก็ต้องรักษาตรงนี้ไว้ บางอย่างเราจำเป็นที่จะต้องสงวนไว้รักษาไว้ก็ต้องมี ไม่อย่างนั้นก็กลับไปที่เก่า เราจะทำกันอย่างไรอีก เพราะเราเห็นแล้วว่าเสียหายมากมายแค่ไหน วันนี้ก็มีผลกระทบจากเรื่องสงครามเข้ามาอีก ซึ่งกระทบเป็นห่วงโซ่ ทุกประเทศ จึงอยากให้ทุกคนมองว่ารอบบ้านเราเป็นอย่างไร ต่างประเทศเป็นอย่างไร เราออกมาตรการมากกว่าเขาอีก ประชาชนเดือดร้อน คิดหรือว่านายกฯ ไม่เจ็บปวด ตนไม่อยากให้ใครเดือดร้อนทั้งสิ้น แต่เราก็พยายามทำอย่างเต็มที่ และที่สามารถทำได้ โดยที่ไม่เป็นปัญหา ไม่สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในอนาคต ก็พยายามที่สุดแล้ว ก็ขอให้ช่วยกันหน่อย
ส่วนที่พรรคก้าวไกล แถลงตั้งคำถามถึงนายกรัฐมนตรีมนตรี ต่อการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งที่จะอนุญาตให้ถอนหน้ากากอนามัยเดือนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ประกาศไปถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งก็จะพิจารณาอีกที ว่ามีความจำเป็นหรือไม่อย่างไร เพราะเราทราบดีอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตรงนี้ในการบูรณาการทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร จากเดิมมีแค่เฉพาะกฎหมายของสาธารณสุขอย่างเดียว ซึ่งไม่เพียงพอในการบูรณาการ ใช้คนทั้งหมดมาทำงาน และมีผลมาถึงวันนี้แล้ว ในเรื่องประสิทธิภาพของเรา วันนี้ก็ต้องไปดูว่าจำเป็นอีกหรือไม่ ถ้ายกเลิกไปก็เหลือแต่กฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะทำไหวทุกอย่าง หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์มากน้อยเพียงใด พร้อมย้ำว่าตนไม่ได้อยากบังคับใครทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายังไม่ถึงเลย น่าจะอีกราว 1 เดือน
เมื่อถามว่ามีความมั่นใจที่จะชี้แจงมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็บอกไปตั้งนานแล้ว
ส่วนที่ฝ่ายค้าน จะหยิบยกเรื่องการแก้จน มาโจมตี นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ว่าไปตามนั้น ถึงเวลานี้เรื่องการศึกษาก็กำลังแก้ไขอยู่ ก่อนที่จะขึ้นรถกลับทันที