ที่อาคารทูแปซิฟิก เพลส ถนนสุขุมวิท ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย และ เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษกพรรครวมพลังประชาชาติไทย แถลงข่าว “คัดค้านการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ”

โดย ทวีศักดิ์ กล่าวว่า สาระใหญ่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดยฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ตรงกันคือ แก้มาตรา 256 เพื่อให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อไปในอนาคตทำได้ง่ายขึ้น และขอเพิ่มเติมหมวดใหม่คือ หมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือจัดทำใหม่ทั้งฉบับ แม้บอกว่าจะไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 แต่ก็ย้อนแย้งกันอยู่ เพราะหากไม่แตะ 2 หมวดดังกล่าว ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนใหม่ทั้งฉบับ พร้อมประกาศจุดยืนของพรรค 4 ข้อ คือ 

1.ความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่แม้มาจาก คสช.แต่ไม่ใช่ประเด็นชี้ขาดความชอบธรรม ต้องพิจารณาเนื้อหาสาระและโอกาสของประชาชนในการสถาปนา คือการลงประชามติเห็นชอบเกือบ 17 ล้านเสียง ดังนั้น รัฐธรรมนูญปี 2560 จึงมีความชอบธรรมอยู่แล้ว 

2.การแก้ไขเพิ่มเติม โดยเพิ่มหมวด 15/1 ตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ควรทำประชามติก่อนว่าประชาชนต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่

3.รัฐธรรมนูญ 2560 มีบทบัญญัติอันดีงามอยู่นานาประการ มุ่งหมายแก้ไขและป้องกันปัญหาเลวร้ายทางการเมือง หากศึกษาบทบัญญัติอย่างถ่องแท้ จะเห็นเนื้อหาอันทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง แต่ที่มีการวิจารณ์ มาตรา 272 ที่ให้ ส.ว.มีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบทเฉพาะกาลเท่านั้น ซึ่งการแก้ไขมาตราที่เป็นปัญหาทำได้เป็นรายหมวดรายมาตรา ไม่มีเหตุสมควรจะต้องล้มเลิกรัฐธรรมนูญฉบับแต่อย่างใด

4.รัฐสภาเป็น 1 ใน 3 เสาหลักอำนาจอธิปไตย การตราหรือแก้ไขกฎหมายต้องทำภายใต้หลักนิติรัฐนิติธรรม ไม่ใช่ตามกระแส เพื่อบรรเทาแรงกดดันที่ปราศจากความชอบธรรมอย่างแท้จริง แต่เพื่อให้ผ่านสถานการณ์ช่วงใดช่วงหนึ่งไปเท่านั้น

พรรครวมพลังประชาชาติไทย ยืนยันการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่ง ส.ส.ของพรรคทั้ง 5 คนจะไม่ยกมือให้ผ่าน ส่วนจะได้อภิปรายหรือไม่ อยู่ที่วิปรัฐบาล สำหรับผู้ชุมนุมแต่ละฝ่าย ภาพเป็นการใช้สิทธิ์ซึ่งสามารถกระทำได้ แต่ขอให้ชุมนุมโดยสงบสันติ อย่าให้เกิดเหตุรุนแรงต่อกัน

ด้าน เขตรัฐ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ผ่านประชามติมานั้น มีความชอบธรรมที่จะเรียกได้ว่า "ฉบับประชาชน" มากกว่าร่างแก้ไขของไอลอว์ที่มีผู้ร่วมลงชื่อแสนกว่าคน และ วันที่ 17-18 พ.ย. จะมีผู้ชุมนุมเข้าไปกดดัน โดย ส.ส. ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยทั้ง 5 คน จะทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนในการยึดหลักนิติรัฐนิติธรรมและไม่ขอเอนเอียงไปตามกระแสสังคม แต่ขอพิจารณาและลงมติโดยยึดถือว่าผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ