ไม่พบผลการค้นหา
ศปถ.สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน (29-31 ธ.ค. 2563) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,652 ครั้ง เสียชีวิต 186 ราย บาดเจ็บรวม 1,654 คน จ.นครราชสีมา เสียชีวิตสะสมสูงสุด 13 ราย

ที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 แถลงว่า ศปถ.รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 652 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 67 ราย ผู้บาดเจ็บ 642 คน

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ 38.04% , ขับรถเร็ว 34.36% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 85.95% ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 63.65% ถนนกรมทางหลวง 33.59% ถนนใน อบต./หมู่บ้าน 38.04% ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. 29.75% ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป 25.81%

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,914 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,613 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 417,876 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 79,851 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 23,295 ราย ไม่มีใบขับขี่ 19,877 ราย โดยจังหวัด ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (27 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (7 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (27 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (29-31 ธ.ค. 2563) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,652 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 186 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 1,654 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 17 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (63 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (13 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (68 คน)

นพ.ขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ประชาชนยังคงเฉลิมฉลองและเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ ศปถ.จึงได้ประสานจังหวัดเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงานในด่านชุมชนและจุดสกัดตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เน้นการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่รวมถึงคัดกรองวัดไข้ประชาชนก่อนเข้าพื้นที่ จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 3 วันที่ผ่านมาพบว่า พฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด จึงได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งเวลาจำหน่าย สถานบริการ และควบคุมไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วขับ