โดยเฉพาะการวัดพลังระหว่าง ตท.27-28 ที่ต่างมี ‘แบ็กอัพ’ ของตัวเอง ทำให้โผโยกย้าย ทบ. ครั้งนี้ เกิดปรากฏการณ์ ‘ฟ้าผ่า’ ขึ้นที่กองทัพภาคที่ 1
จากที่คาดกันว่า ‘บิ๊กหนุ่ย’ พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.24) จะได้ขึ้น แม่ทัพภาคที่ 1 แต่กลับกลายเป็น ‘บิ๊กปู’พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.26) ที่ขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 แล้วโยก พล.ท.ธราพงษ์ ออกจาก ทภ.1 เข้ามายัง บก.ทบ. นั่ง ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. กลายเป็น ‘ตำแหน่งลอย’ ไป พร้อมตั้ง ‘บิ๊กรุ่ง’พล.ต.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ (ตท.26) รอง มทภ.1 ขึ้นเป็น แม่ทัพน้อยที่ 1
เท่ากับว่าเป็นการข้ามจาก ตท.22 ไปยัง ตท.26 ปาดหน้า ตท.24 คือจาก ‘บิ๊กโต’พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง มทภ.1 (ตท.22) ที่ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. มายัง พล.ต.พนา เลย
(พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.24) )
สำหรับ พล.ท.ธราพงษ์ มา โตมาจาก พล.ร.2 รอ. สายบูรพาพยัคฆ์ สายเดียวกับ ‘3ป.’
ส่วน พล.ต.พนา โตมาจาก ร.31 รอ. เหมือนกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ก่อนเป็น จนขึ้นเป็นผู้การ ร.31 รอ. ก่อนโยกมาเป็น เสธ.พล.1 รอ. จากนั้นไปโตที่ พล.ร.11 จนขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.11 หรือ กองพลสไตรเกอร์ ที่ตั้งขึ้นยุค ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. จากนั้น พล.ต.พนา ก็เข้ากรุงอีกครั้ง มาเป็น รอง มทภ.1.
การที่ พล.ท.ธราพงษ์ ต้อง ‘ถอนร่น’ จนหลุดไลน์เส้นทางเหล็ก ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. งานนี้ฝั่ง ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ อาจอยู่ในสภาวะ ‘กลืนเลือด’ ด้วย
ดังนั้นจึงเหลือความหวังเดียวของขั้ว ‘3ป.’ คือ ‘บิ๊กต่อ’พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.23) ที่ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. เตรียมขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ปีหน้า แล้วเกษียณฯ ก.ย. 2567
(พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ตท.23))
(พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.26))
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคที่ขั้ว ‘3ป.’ แทบไม่มีอำนาจใน ทบ. แล้ว เพราะจะเข้าสู่ยุค ตท.27-28 คุม ทบ. ที่ล้วนเป็น ‘ทหารคอแดง’ ซึ่งการที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ต้องรีบดัน ตท.26 ขึ้นมา ก็เพื่อกรุยทางรอ ตท.27-28 ที่กำลังขับเคี่ยวกันเอง เบียดรุ่นพี่ขึ้นมาคุม ทบ. และจะเป็น ‘ระเบิดเวลา’ ในอนาคตด้วย
ทั้ง ‘บิ๊กไก่’พล.ต.วรยศ เหลืองรุ่งเรือง (ตท.28) ผบ.พล.1 รอ. ขึ้น รองมทภ.1 โดย พล.ต.วรยศ เติบโตมาจาก พล.ร.2 รอ. ถิ่นบูรพาพยัคฆ์ ก่อนโยกเข้า พล.1 รอ.
‘บิ๊กใหญ่’พล.ต.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) ผบ.พล.ร.2 รอ. ขึ้น รอง มทภ.1 โดย พล.ต.อมฤต โตมาจาก ร.21 รอ. สายทหารเสือฯ เหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์
‘บิ๊กตั้ง’พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล (ตท.27) ผบ.พล.ร.11 หลุดไลน์จากเดิมที่มีชื่อเคยถูกวางตัวให้เป็น รอง มทภ.1 แต่สุดท้ายมาเป็น รองแม่ทัพน้อยที่ 1 แทน ทำให้ ‘ไลน์สะดุด’ ในการขึ้นชิง มทภ.1 ในอนาคต ซึ่ง พล.ต.ธวัชชัย เติบโตมาจาก ร.11 รอ. สายเดียวกับ พล.อ.อภิรัชต์ อดีต ผบ.ทบ.
(พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล (ตท.27))
‘บิ๊กกอล์ฟ’ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ (ตท.28) ผบ.มทบ.11 ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. โดย พล.ต.สราวุธ โตมาจาก พล.1 รอ. ก่อนข้ามไปโตที่ พล.ร.9 ซึ่ง พล.ต.สราวุธ ไม่เคยโตจาก พล.ร.2 รอ. มาก่อน
‘รองแอ้ม’พ.อ.ณัฐเดช จันทรางศุ (ตท.28) รอง ผบ.พล.1 รอ. ขึ้น ผบ.พล.1 รอ. โดย พ.อ.ณัฐเดช โตมาจาก ร.11 รอ.
ในฝั่ง บก.กองทัพไทย เรียกว่า ‘ยื้อเวลา’ ไปอีก 1 ปี รอปะทุปีหน้า ภายหลัง ‘บิ๊กแก้ว’พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด (ตท.21) เกษียณฯ ก.ย. 2566 โดยจะเกิดศึกวัดพลังระหว่าง เพื่อน ตท.24 ด้วยกันเอง ที่ต่างกันตรงเป็น ‘ทหารคอแดง’ กับ ‘ทหารคอเขียว’
หลัง ‘บิ๊กอ๊อบ’พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา (ตท.24) โยกออกจาก ทบ. มาเป็น รอง ผบ.ทหารสูงสุด จากเดิมที่มีชื่อขึ้นเป็น เสธ.ทหาร แต่เกิดแรงต้านจาก บก.กองทัพไทย ที่ไม่ต้องการให้มีการ ‘เสียบยอด’ อีก โดย พล.อ.ทรงวิทย์ เป็น ‘ทหารคอแดง’ ที่เป็น ทม.รอ.
(พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา (ตท.24) )
ส่วน ‘บิ๊กจ่อย’พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง รอง เสธ.ทหาร เพื่อน ตท.24 ที่เติบโตจาก บก.กองทัพไทย ขึ้นเป็น ‘เสนาธิการทหาร’ ที่ถือเป็นตำแหน่ง ‘ประทับตรา’ เต็งหนึ่ง ผบ.ทหารสูงสุด ซึ่ง พล.อ.ธิติชัย เป็น ‘ทหารคอเขียว’
ทว่าก็ไม่มีสูตรสำเร็จที่ว่า ผบ.ทหารสูงสุด จะต้องเป็น ‘ทหารคอแดง’ แม้ พล.อ.เฉลิมพล จะเป็นทหารคอแดงก็ตาม ทำให้ ‘ลูกหม้อ’ บก.กองทัพไทย ออกมาทวงสิทธิ์คนใน ทำให้ชื่อ พล.อ.ธิติชัย ยังคงมีลุ้นปีหน้า ส่วน พล.อ.ทรงวิทย์ หากจะขึ้น ผบ.ทหารสูงสุด ก็ต้องออกแรงสู้พอควร
(พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง รอง เสธ.ทหาร ตท.24)
ทั้งหมดนี้เป็นฉายภาพ ‘ทหารคอแดง’ ขุมกำลังใหม่ใน ทบ. ที่ต่างกำลังเติบโต จึงกลายเป็น ‘ศึกวัดพลัง’ กันเอง ทั้งในรุ่นและระหว่างรุ่น ตท. ที่กำลังเกิดขึ้นใน ทบ. โดยเฉพาะกับ ตท.27-28 ในการขึ้นคุม ทบ. ในอนาคต รวมทั้งการเผชิญหน้ากับ ‘ทหารคอเขียว’ ด้วย
อีกทั้งยังท้าทายขั้วอำนาจ ‘3ป.’ ในวันที่ใกล้ต้อง ‘ลงหลังเสือ’ และต้องรีบ ‘ผ่องถ่ายอำนาจ’ ของตัวเองมากขึ้น เพื่อไม่ให้โดน ‘เช็คบิลย้อนหลัง’ ซึ่งอยู่ในช่วงที่ ทบ. เปลี่ยนผ่านอำนาจภายในด้วย
ไม่มีอะไรแน่นอนทั้งสิ้น !!