ไม่พบผลการค้นหา
25,396 คะแนน คือคะแนนที่เพิ่มขึ้นของ 'เผดิมชัย สะสมทรัพย์' ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ลงสู้ศึกล้างตาการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.อีกครั้งในฐานที่มั่นเดิม จ.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2562

ทำให้คนตระกูล สะสมทรัพย์ สามารถทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.กลับคืนสู่อ้อมอกได้อีกครั้ง

ในขณะที่แชมป์เก่าอย่าง 'พรรคอนาคตใหม่' ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ลงป้องกันแชมป์ ทิ้งไพ่ส่ง 'ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร' ซึ่งเป็นสามีนางจุมพิตา จันทรขจร อดีต ส.ส.นครปฐม พรรคอนาคตใหม่ 

แม้เปลี่ยนตัวคน แต่อุดมการณ์ยังเหมือนเดิม ทว่า 'พรรคอนาคตใหม่' ที่ทุ่มสรรพกำลังขนแกนนำตั้งแต่ 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' หัวหน้าพรรค 'ปิยบุตร แสงกนกกุล' เลขาธิการพรรค รวมทั้งผู้บริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรคเกือบทั้งหมด ลงพื้นที่ และปราศรัยใหญ่ก่อนวันเลือกตั้ง

แต่คะแนนของแชมป์เก่า กลับหายไป 5,948 คะแนน

อะไรคือปัจจัยและเบื้องลึกของการหายไปของฐานเสียงเดิม

เมื่อย้อนไปดูผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ที่ พรรคอนาคตใหม่ สามารถประกาศปักธงกวาด ส.ส.ในเขตเลือตั้งที่ 5 เข้าสภาฯ ซึ่งถือเป็นการชนะขาดลอยทิ้งอันดับ 2 จากพรรคประชาธิปัตย์ และการเลือกตั้งครั้งนั้นก็ยังสร้างความบอบช้ำให้กับ คนตระกูลสะสมทรัพย์ ไม่น้อย

ถึงขั้น ที่ 'เผดิมชัย' พี่ใหญ่ของตระกูลสะสมทรัพย์ ต้องส่ายหน้า ยอมรับว่าแพ้กระแสคนรุ่นใหม่อย่างหมดรูป

ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อนาคตใหม่ เผดิมชัย ชาติไทยพัฒนา เลือกต้ังซ่อม นครปฐม 69.jpg
  • สถิติการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 5

วันที่ 24 มีนาคม 2562

- จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 143,221 คน

- ผู้มาแสดงตน 109,038คน คิดเป็นร้อยละ 76.13

- บัตรดี 101,879 บัตร คิดเป็นร้อยละ 93.44

- บัตรเสีย 4,770 บัตร คิดเป็นร้อยละ 4.37

- บัตรไม่เลือกผู้สมัครใด 2,387 บัตร คิดเป็นร้อยละ 2.19 

ผลเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 

นางจุมพิตา จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ 34,164 คะแนน (ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.) 

นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ 18,970 คะแนน

นายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว พรรคพลังประชารัฐ 18,741 คะแนน

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา 12,279 คะแนน 

นางลาวัลย์ สิงห์สถิต พรรคเสรีรวมไทย 6,010 คะแนน

นครปฐม  24 มีนาคม 62 led.jpg

(ผลเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม เขต 5 เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562)

  • การเลือกตั้ง ซ่อม ส.ส.นครปฐม เขต 5 เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2562 

(ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ)

ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 143,542 คน

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาแสดงตน จำนวน 91,043 คน (ร้อยละ 63.43) (-10,836 คน)

ผลการเลือกตั้ง 4 อันดับแรก

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา 37,675 คะแนน (+25,396 ) (ว่าที่ ส.ส.)

นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ 28,216 คะแนน (-5,948 )

นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ 18,425 คะแนน (-545 )

นางลาวัลย์ สิงห์สถิต พรรคเสรีรวมไทย 2,261 คะแนน (-3749 )

เผดิมชัย กัญจนา ชาติไทยพัฒนา เลือกตั้ง

ด้าน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า กกต.จะประกาศการเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อได้ดำเนินการตามเงื่อนไขและเวลาที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมีเหตุอันควรเชื่อว่า ผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และต้องรับฟังรายงานของผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม รวมทั้งข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากแหล่งต่างๆ มาประกอบการพิจารณาด้วย ทั้งนี้ กกต.จะประกาศเลือกตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็วแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่มีการเลือกตั้งใหม่ 

ขณะที่ 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' หัวหน้าพรรคยอมรับผลพ่ายแพ้ครั้งนี้ โดยเชื่อว่า 28,000 เสียงที่ จ.นครปฐม เป็นเหล็กเนื้อดี และเชื่อมั่นว่า 70 ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่จะเป็นเนื้อดี

"ยังมีประชาชนยืนอยู่กับพรรคอนาคตใหม่กว่า 28,000 คน จึงไม่มีความกังวลใจอะไร เล็กเพื่อใหญ่ ล้มเพื่อลุก เราขอยืนยันจะทำงานทางการเมืองภายใต้ร่มของพรรคอนาคตใหม่ต่อไปให้มั่นคงและเเน่วแน่" นายธนาธร กล่าว

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ส่วน 'เผดิมชัย' หลังทราบผลว่าชนะขาด ก็ระบุว่า "ผลคะแนนที่ออกมา ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรเพราะครั้งที่แล้วคะแนนหายไปเยอะมาก แต่เมื่อได้กลับคืนมาผมก็จะตอบแทนชาวนครปฐมด้วยการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยและเต็มที่ พร้อมขอบคุณพรรคพลังประชารัฐและรัฐบาลที่ใจกว้างให้พรรคชาติไทยพัฒนาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีก ทั้งที่คะแนนก็น้อยกว่าพรรคประชาธิปัตย์ และมีภาษีน้อยกว่าพรรคพลังประชารัฐมีเป็นแกนนำจะจัดตั้งรัฐบาลและกำลังมีผลงาน นั่นเป็นเพราะรัฐบาลอยากให้มีความเป็นประชาธิปไตยแท้จริง"

ปัจจัยชี้ขาดคะแนนที่ทำให้ตระกูล สะสมทรัพย์ กลับมาทวงคืนฐานที่มั่นเดิมสำเร็จ แม้พรรคชาติไทยพัฒนา จะไม่หลีกทางให้พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง พรรคประชาธิปัตย์

ในขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่าง พรรคเพื่อไทย หลีกทางให้พรรคอนาคตใหม่ ลงทวงคืน ส.ส.กลับสู่สภา 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคชาติไทยพัฒนา และ 'เผดิมชัย' ซึ่งมีประสบการณ์และบารมีในสนามเลือกตั้งมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปีมองขาด

คนตระกูลสะสมทรัพย์มองขาดว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้ จะสามารถโค่นคู่แข่งอย่างพรรคอนาคตใหม่ได้

'เผดิมชัย' คงไม่ได้มองเพียงว่าแม้จะมีพรรคประชาธิปัตย์มาตัดคะแนนจะเป็นจุดเสียเปรียบเท่านั้น

แต่เขามั่นใจว่า ฐานเสียงที่เคยมีจะเทเสียงคืนกลับให้เขาได้เข้าสภาผู้แทนราษฎรได้

แม้แต่ ส.ส.ภายในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็วิเคราะห์ถึงผลเลือกตั้งซ่อมที่ออกมา โดยมองปัจจัยที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ ต้องพ่ายแพ้เลือกตั้งในครั้งนี้ว่า พรรคอนาคตใหม่ ไม่มีฐานเสียงจัดตั้งเหมือนเช่นที่ 'เผดิมชัย สะสมทรัพย์'มี เพราะพรรคอนาคตใหม่อาศัยเพียงกระแสคนรุ่นใหม่ และคนที่ไม่เอารัฐบาลเท่านั้น

รวมทั้งกระแสคนกลางๆภายใน จ.นครปฐมเลือกที่จะไม่เทเสียงให้กับพรรคอนาคตใหม่ ด้วยภาพที่พรรคอนาคตใหม่ เพิ่งผ่านการโหวตคว่ำ พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นหน่วยงานบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 ทั้งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านลงมติเห็นชอบ

ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่พรรคการเมืองน้องใหม่ต้องเสียที่นั่ง ส.ส.ในสภาไป 1 ที่นั่ง

นับคะแนน-ทรงคนอง ชาติไทยพัฒนา นครปฐม เลือกตั้ง

ปัจจัยที่พรรคอนาคตใหม่แพ้ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งแพ้เพราะฐานบารมี และคะแนนเสียงจัดตั้งที่ฝังลึกมานานใน จ.นครปฐม ของ 'เผดิมชัย' สามารถกวาดต้อนคะแนนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 เป็นจำนวนกว่า 25,000 คะแนน 

อีกทั้ง ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ หลีกทางไม่ส่งคนลง 

นั่นจึงทำให้ คะแนนที่เคยมีของพรรคพลังประชารัฐกว่า 18,000 คะแนนเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 มีความเป็นไปได้ที่จะเทให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และวางบทบาททางการเมืองเป็นพรรคขนาดกลาง เพื่อหวังเพิ่มเสียงในสภาฯ ให้กับรัฐบาลที่อยู่ในภาวะเสียงปริ่มน้ำ จาก 252 เสียงเป็น 253 เสียง

ไพรัฎฐโชติก์-อนาคตใหม่

ในขณะที่พรรคอนาคตใหม่ แม้จะชูแคมเปญหาเสียง จะเลือกยืนอยู่ข้างฝ่ายประชาธิปไตย หรือข้างเผด็จการอำนาจนิยม ก่อนการเลือกตั้ง

แต่แคมเปญดังกล่าวยังไม่สามารถรักษาฐานเสียงเดิมกว่า 34,000 คะแนนที่เคยมีเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ได้

ซึ่งต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่แม้จะพ่ายแพ้ แต่ฐานคะแนนเสียงยังคงใกล้เคียงกับของเดิม

กว่า 5,000 คะแนนของพรรคอนาคตใหม่ที่เป็นฐานเสียงเดิมหายไปนั้น จึงส่งผลเสียหายต่อพรรคไม่น้อย

เพราะอย่าลืมว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ ชนะเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 5 จ.นครปฐม เป็นเพราะพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ถูกยุบพรรค ทำให้คะแนนทั้งหมดมาเทให้กับพรรคอนาคตใหม่

รวมทั้งพรรคชาติไทยพัฒนา อย่าง 'เผดิมชัย' ถูกหลายพรรครุมแย่งคะแนนเสียง 

บริบทการเลือกตั้งของวันที่ 24 มี.ค. 2562 และ วันที่ 23 ต.ค. 2562 จึงมีผลออกมาแตกต่างกัน

ผลลัพธ์ที่ออกมากำลังบ่งบอกว่าพรรคฝ่ายค้านควรวางกลยุทธ์ในอนาคตอย่างไร ไม่ให้เสียที่นั่งในสภาฯอีกเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้นในวันข้างหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง