ภายหลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่พร้อมด้วยนายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 5 นครปฐม นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือแพนกวินแกนนำนักศึกษาเคลื่อนไหวทางการเมือง น.ส.ณัฏฐา มหัธนา และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย แกนนำจัดงานวิ่งไล่ลุง พร้อมทนายความ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก กรณีจัดการชุมนุมแฟลชม็อบ ที่สกายวอล์กสี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้เลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหามาแล้ว 1 ครั้ง
นายธนาธร กล่าวว่า กระบวนการต่อไปพนักงานสอบสวนจะนัดหมายมาอีกครั้งในวันที่ 3 ก.พ. เพื่อนัดส่งฟ้องต่ออัยการที่ศาลแขวงปทุมวัน ในเวลา 10.00 น. โดยในวันนี้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 5 ข้อหา ประกอบด้วยความผิดฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และเพิ่มข้อหาความผิดฐานชุมนุมในรัศมี 150 เมตรใกล้เขตพระราชทาน
สำหรับแนวทางการต่อสู้หลังจากนี้ยังคงยืนยันว่าจะต่อสู้ภายใต้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนที่พึงมี ย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ท้อแท้หรือหมดกำลังใจ แต่กลับแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรมของไทย ทั้งนี้ฝากให้ประชาชนเปลี่ยนความแค้นเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
เมื่อถามถึงการใช้พื้นที่ในการชุมนุมครั้งต่อไป ระมัดระวังมากกว่านี้หรือไม่นั้น นายธนาธร มองว่า ประเทศไทยสำหรับประชาชนยังขาดพื้นที่สาธารณะในการแสดงออกเรียกร้องพื้นที่การแสดงออกตามสิทธิขั้นพื้นฐาน
ทั้งนี้นายธนาธร ยังกล่าวต่อว่า ปี 2563 นี้ จะเป็นปีแห่งการแสดงออกที่แท้จริงของประชาชน หลังจากเมื่อปีที่แล้วเป็นเพียงการโหมโรงเท่านั้น ส่วนจะยกระดับการชุมนุมหรือไม่นั้นขอให้รอดูต่อไป และในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะเป็นแกนนำด้วยตัวเอง
นายธนาธร ยังกล่าวถึงความพร้อมการเข้าฟังคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 ม.ค.นี้ในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ว่า ไม่ว่าเหตุการณ์วันนั้นอะไรจะเกิดขึ้น ตัวเองและพรรคอนาคตใหม่มีแผนสำรองไว้แล้ว ยืนยันต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
จากนั้นนายธนาธรได้เดิน ทักทายกับมวลชนสนับสนุนตัวเอง และพรรคอนาคตใหม่ ว่า ทั้ง 5 ข้อกล่าวหา ทุกคนจะต่อสู้ทางคดีอย่างเต็มที่ และมั่นใจในสิทธิเสรีภาพในการต่อสู้คดี พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนไปร่วมกันวิ่งไล่ลุงกันในวันที่ 12 มกราคมนี้ ก่อนที่จะสวัสดีปีใหม่ประชาชนทุกคน และระบุว่าถือเป็นครั้งแรกที่มา สวัสดีปีใหม่กันที่หน้าสถานีตำรวจ และชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ก่อนเดินทางกลับ
ขณะที่นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทุกคนขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งนายธนาธร และนายไพรัฎฐโชติก์ จะขอนำพยานบุคคลมาให้การเพิ่มเติมด้วย 4 คน โดยพนักงานสอบสวนนัดหมายให้ดำเนินการภายในวันที่ 20 ม.ค. ส่วนในวันที่ 3 ก.พ. เวลา 10.00 น. จะเดินทางมาตามนัดหมายของพนักงานสอบสวน เพื่อส่งฟ้องต่ออัยการในการดำเนินคดีที่ศาลแขวงปทุมวันต่อไป
ขณะเดียวกัน นายธนาธร ยังโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ผมมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน ตามหมายเรียกอันเกี่ยวเนื่องจากกิจกรรม #ไม่ถอยไม่ทน ที่สกายวอล์กปทุมวันเมื่อกลางเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา นี่คือความพยายามของเผด็จการที่จะทำให้ประชาชนกลัวและสิ้นหวังเพื่อที่พวกเขาจะได้ครองอำนาจต่อไป หากเราไม่กลัว หากเรายังมีความหวัง และหากเราสามัคคีรวมพลังกัน ลุกขึ้นยืนยันสิทธิเสรีภาพของประชาชน เผด็จการก็ไม่สามารถทัดทานพลังของเราได้ ผมจะไม่กลัว ไม่ถอย ไม่ทน และสู้ต่อไปเพื่ออนาคตที่สดใส ปลอดภัยจากเผด็จการ ขอให้ปี 2563 เป็นปีแห่งความกล้าหาญของประชาชน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง