วันที่ 7 เม.ย. 2566 รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแจ้งว่า ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้ย้ำแกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนว่า ต้องหาเสียงสร้างสรรค์ อย่าโจมตีสาดโคลน รักษากฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรงเด็ดขาด เพราะ พล.อ.ประวิตร ประเมินแล้วว่า ในช่วงนี้บางพรรคพยายามปั่นกระแส และดิสเครดิตพรรคพลังประชารัฐในเรื่องสนับสนุนการยึดอำนาจในช่วงที่ผ่านมา แต่ พล.อ.ประวิตร ให้แนวทางไปว่า ควรชี้แจงกับประชาชนว่าพรรคยึดกติกาและรักษาประชาธิปไตย รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร ช่วยประสานความขัดแย้งในช่วงที่ผ่านมาเพื้อให้บ้านเมืองเดินหน้าและกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเร็วที่สุด วันข้างหน้าความขัดแย้งต้องลดลง และจางหายไปในที่สุด
รายงานข่าวกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร บอกกับแกนนำพรรคให้แจ้งผู้สมัคร ส.ส.เวลาลงพื้นที่ว่า ที่ผ่านมาเยาวชนกลุ่มสามนิ้วมาประท้วง พล.อ.ประวิตร เช่น จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่มายกสามนื้วให้ พล.อ.ประวิตร ในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.หลักสี่-จตุจักร แต่ พล.อ.ประวิตรได้ทักทาย และย้ำว่าเป็นลูกหลาน จนเหตุการณ์ไม่บานปลาย หรือกรณี ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่มาขอสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร ซึ่ง ภัสราวลี ก็บอกสื่อมวลชนไปว่า หลังจากพูดคุยกับ พลพ.อ.ประวิตรก็พบสัญญาณที่ดี เป็นต้น ตรงนี้แปลว่าเยาวชนกลุ่มสามนิ้วที่ต่อต้านนั้นหากได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้วก็จะเข้าใจและปรับท่าที่ในเชิงบวกขึ้น รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร ยังพร้อมพูดคุยกับทุกฝ่ายเสมอ เพื่อให้บรรยากาศบ้านเมืองดีขึ้น ซึ่งตรงกับแนวทางของ พล.อ.ประวิตร ที่ให้แคมเปญหาเสียงว่าก้าวข้ามความขัดแย้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประวิตร ย้ำว่าหากเยาวชนต้องการมาพูดคุยกับตนหรือแกนนำพรรคนั้น ขอให้ยึดหลักเคารพกฎหมายและวัฒนธรรมอันดีของประเทศ สิ่งใดที่มาพูดคุย หรือเรียกร้องหากอยู่ในครรลองและกฎหมายก็สามารถร่วมมือกันได้ และที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร พอใจกับการพูดคุยกับเยาวชน นักศึกษาหลายสถาบันที่กลุ่มเฟซบุ๊ก FC ลุงป้อม ได้วิดีโอคอลให้ พล.อ.ประวิตร ได้สื่อสารกับคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่ได้สะท้อนปัญหาหลายเรื่องให้ พล.อ.ประวิตร และทีมงาน FC ลุงป้อม รับไว้พิจารณาแก้ไข โดยพบว่าท่าทีของคนรุ่นใหม่นั้นพร้อมที่จับมือฝ่ายต่างๆเพื่อลดความขัดแย้ง และไม่มีท่าทีต่อต้าน พล.อ.ประวิตร ตรงนี้ทำให้ พล.อ.ประวิตร มั่นใจว่า หากเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่สื่อสารกับแกนนำพรรคต่างๆอย่างเต็มที่นั้น ความเข้าใจที่ไม่ตรงกันเป็นบ่อเกิดของความเห็นที่รุนแรงทางการเมือง จะลดระดับลงไปได้
รายงานข่าวกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มองว่าคนรุ่นใหม่คือพลังของประเทศ หากพรรคให้ข้อมูลที่กลุ่มคนรุ่นใหม่สามารถเข้าใจตรงกันกับแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งของคนรุ่นใหม่และทำความเข้าใจให้ความผ่อนหนักผ่อนเบาและใช้ความละมุนละม่อมต่อกันและกันนั้น แนวทางการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของบ้านเมืองก็จะได้มีบรรยากาศที่ลดปัญหาความขัดแย้ง ที่ทางพรรคน่าจะได้รับความร่วมมือร่วมใจเพื่อช่วยกันผลักดันตลอดถึงคนรุ่นใหม่จะได้ช่วยเป็นอีกกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ จากคนรุ่นเก่าที่มีประสิทธิภาพ และมีประสบการณ์ร่วมมือกับรุ่นใหม่บรรยากาศทางการเมืองที่ดีจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ดังนั้นผู้สมัครส.ส.ของพรรคต้องเพิ่มการให้ความรักความเข้าใจเพื่อมิให้เกิดภาพความขัดแย้งในช่วงหาเสียงและในเวลาต่อจากนี้ไปถึงแม้จะสิ้นสุดห้วงระยะเวลาของการเลือกการเลือกตั้งและการใช้วิธีสร้างความปรองดองในทุกพื้นที่ ให้เป็นหลักของความสามัคคีของคนไทยในสังคมต่อไปในวันข้างหน้าเพื่อลดความขัดแย้งและนำพาความสงบสุขมาสู่สังคม