ไม่พบผลการค้นหา
วิปสองฝ่ายยังไม่ได้ข้อสรุปกรอบเวลาซักฟอก หลังฝ่ายค้านขอเวลาชำแหละ 45 ชั่วโมงแต่รัฐบาลไม่ยอม ชี้ซักฟอกนานกว่าครั้งที่ผ่านมา

วันที่ 2 ก.พ. 2564 ที่รัฐสภา ภายหลังการหารือวิปสองฝ่ายนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยมี ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในการประชุม ซึ่งเบื้องต้นในที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปกรอบเวลาในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ขอเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเวลา 45 ชั่วโมง ทำให้จะต้องกลับมาหารือกันอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 5 ก.พ.นี้เวลา 14.00 น.โดยจะมีตัวแทนจากคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมหารือดังกล่าวด้วย ซึ่งในการประชุมหากรัฐบาลเห็นด้วยให้เพิ่มเวลาตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอมา วิปรัฐบาลก็จะเห็นด้วยเช่นกัน 

โดย วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่าพรรคฝ่ายค้านเสนอเวลามา 45 ชั่วโมงแต่วิปรัฐบาลขอต่อรองเวลาลงมาเหลือเพียง 35 ชั่วโมง เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ใช้เวลามากกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งที่ผ่านมาที่ใช้เวลาเพียง 30 ชั่วโมง 

นอกจากนี้ประธานวิปรัฐบาลยังยืนยัน ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะเป็นไปโดยเปิดเผยและไม่มีการประชุมลับซึ่งหากมีการอภิปรายพาดพิงถึงสถาบันให้เป็นความรับผิดชอบของผู้อภิปรายเอง    

ขณะที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันถึงกรอบเวลาในการอภิปราย 45 ชั่วโมงเนื่องจากผู้ถูกอภิปรายเพิ่มขึ้นจากการอภิปรายในครั้งที่ผ่านมา คนที่มีรัฐมนตรีพูดอภิปราย 6 คน ใช้เวลาในการอภิปราย 37 ชั่วโมง ซึ่งครั้งนี้มีรัฐมนตรีที่ภายจำนวน 10 คน ทำให้จำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้น โดยยืนยันว่าไม่ได้ขอเวลาที่มากเกินไป เป็นเวลาที่เป็นธรรมด้วยซ้ำไป 

โดยยืนยันว่าการใช้วัน มากำหนดเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่สามารถที่จะทำได้ ซึ่งหากอภิปราย 4 วัน แล้วพูดไม่ครอบคลุมรัฐมนตรีทุกคนแล้วปิดอภิปรายไปก่อนก็จะเป็นปัญหา ซึ่งหากฝ่ายค้านได้เวลา 45 ชั่วโมงจะใช้เวลา 4 วันก็ได้ หรืออาจจะใช้เวลา 5 วันอภิปรายไปจนถึงวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. และโหวตลงมติในวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. ก็ได้ 

ด้าน พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าครั้งนี้รัฐมนตรีพูดอภิปรายมีมากกว่าเดิม จะต้องได้เมื่อคำนวณตามหลักคณิตศาสตร์แล้วจะต้องได้เวลาในการอภิปรายมากกว่าเดิม โดยย้ำว่า 45 ชั่วโมงเป็นเวลาที่เหมาะสม 

พิจารณ์ ยังกล่าวในที่ประชุมวิป 2 ฝ่ายว่า สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีความห่วงใยในประเด็นอภิปรายที่พรรคฝ่ายค้านกล่าวหานายกรัฐมนตรี ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันและอาจมีการนำเอกสาร หรือเพาเวอร์พอยท์มาใช้ในการอภิปราย ซึ่งตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยเอกสารล่วงหน้าให้ประธานทราบ ซึ่งจะถือเป็นการเฉลยข้อสอบให้กับรัฐมนตรีรับทราบ โดยเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมไม่เหมาะสมและผิดประเพณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างรุนแรง ระวังพร้อมย้ำว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะร่วมกันอภิปรายอย่างระมัดระวัง นำเสนอโดยภาพและข้อมูลที่ไม่เหมาะสมจะไม่ถูกนำมาเสนอในการอภิปราย พร้อมกันนี้ ยอมรับว่ามีความกังวลว่าประธานวิปรัฐบาลจะใช้เสียงข้างมากในสภาเข้าหารือในที่ประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เพื่อขอมติให้ยกเว้นข้อบังคับการประชุมฯ และให้เปิดเผยเอกสารการอภิปรายของฝ่ายค้าน โดยขอให้ประชาชนร่วมกันจับตาว่าฝ่ายรัฐบาลจะใช้ข้ออ้างเพื่อมาเล่นเกมมาบีบฝ่ายค้านในสภาหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีการเปิดเผยเอกสารก่อนที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง