เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 26 ก.พ. 2563 นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ 'เพนกวิน' แกนนำสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) กล่าวระหว่างการปราศรัยที่เวทีแฟลชม็อบ ภายใต้การติดแฮชแท็ก #ที่ยุบอนาคตใหม่พี่มหาลัยกูทั้งนั้น บริเวณลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยตอนหนึ่งระบุว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จุดธูปถามจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้รู้ว่า เมื่อนักศึกษาธรรมศาสตร์ออกมาขับไล่เผด็จการแล้ว จุดจบจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากรวมทุกพื้นที่ที่นักศึกษาออกมาแสดงพลังช่วงนี้รวมแล้วมีจำนวนคนเป็นหมื่นแล้ว จุดใหญ่มี 2,000 -3,000 คน
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า จุดเริ่มต้นการแสดงของนักศึกษารอบนี้ ที่เริ่มต้นจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลังศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่นั้น ไม่แตกต่างจากจุดเริ่มต้นการชุมนุมใหญ่ก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ในเชิงที่ว่า ไม่ได้คาดการณ์หรือคิดว่านักศึกษาประชาชนจะระดมกันมาจำนวนมากเป็นเรือนแสน
ที่ผ่านมา นักศึกษาพยายามมีบทบาทในการแสดงความไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารตลอดมา แม้กระทั่งครั้งล่าสุดปี 2557 ก็เป็นกลุ่มนักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัย จำนวนไม่กี่คนที่ออกมาคัดค้านและถูกดำเนินคดี ดังนั้น ในคืนที่มืดมิด ต้องมีคนจุดไม้ขีด ซึ่งก็คือนิสิตนักศึกษา
นายพริษฐ์ ยืนยันว่า การออกมาขับไล่รัฐบาลไม่ใช่การชังชาติ ถ้าไม่รักชาติไม่รักอนาคตของบ้านเมือง จะไม่ออกมาแสดงพลังเช่นนี้ และเชื่อว่า หลังจากสอบกลางภาคเรียน ที่ทุกมหาวิทยาลัยได้พูดคุยและได้ข้อตกลงเป็นที่แน่ชัด จะมีการชุมนุมใหญ่อย่างแน่นอน
โดยระหว่างการปราศรัย นายพริษฐ์ ยังได้อ่านจดหมาย ของยายอายุ 67 ปีจาก จ.บุรีรัมย์ ที่เขียนถึงตนและนักศึกษา โดยได้ระบายความอัดอั้นและต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากอำนาจ เพราะไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศโดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และทำให้คนทั้งโลกเห็นว่า "เป็นคนไร้ซึ่งปัญญา" แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมรับแล้วยังหลงตัวเอง ทำให้ผู้คนหมดหวัง จนมีประชาชนผูกคอตายรายวัน ในจดหมายระบุด้วยว่า รายต่อไปอาจจะเป็นตัวยายก็ได้ ที่ต้องฆ่าตัวตาย เพราะปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมตั้งคำถามถึงผู้มีอำนาจด้วยว่า "แล้วทำไม ทหารต้องมายุ่งกับการเมืองทำให้ประเทศชาติเสียหายเสียโอกาส"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง