ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้จากเหตุกราดยิงในมลรัฐอินเดียนาของสหรัฐฯ เมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 ก.ค.) ที่ผ่านมา หากมือปืนไม่ถูกจัดการโดยชาย “ผู้กล้าหาญ” คนนี้

ทั้งนี้ มือปืนต้องสงสัยรายนี้ได้สังหารคนไป 3 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ที่ศูนย์การค้าใกล้กับเมืองอินเดียนาโพลิส

อย่างไรก็ดี เหตุกราดยิงอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้ หากไม่มี อลิสชา ดิกเคน วัย 22 ปี ซึ่งกำลังอยู่กับแฟนสาวของเขาในห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ โดยดิกเคนเป็นผู้ชักปืนและยิงใส่มือปืนดังกล่าวจนเสียชีวิต

ในการกราดยิงในครั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยได้เปิดฉากยิงด้วยปืนไรเฟิลในศูนย์อาหารที่ ห้างสรรพสินค้ากรีนวูดปาร์ค ในเมืองกรีนวูด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวจุดชนวนให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับกฎหมายการครอบครองปืนของสหรัฐฯ อีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า มือปืนรายนี้พกปืนไรเฟิลสองกระบอก ปืนพกอีกหนึ่งกระบอก และกระสุนกว่าหนึ่งร้อยนัด ทั้งนี้ มือปืนใช้ปืนไรเฟิลกระบอกแรกยิงไปทั้งหมด 24 นัด ก่อนที่มือปืนจะถูกสังหารเพียงไม่ถึงสองนาทีหลังจากเริ่มก่อเหตุ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) จิม ไอสัน ผู้บัญชาการตำรวจเมืองกรีนวูดกล่าวว่า ดิกเคนได้เข้าต่อกรกับมือปืนตั้งแต่เริ่มการโจมตี โดยไอสันกล่าวว่า การใช้อาวุธปืนของดิคเคน แสดงออกถึงความ "เชี่ยวชาญ" และ "เฉียบแหลม" ในการ “ยิงด้วยปืนพกจากระยะไกล" แม้จะไม่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือผ่านการฝึกทหารมาก็ตาม และในขณะที่ดิกเคนกำลังต่อสู้กับคนร้าย เขายังได้กวักมือให้คนในบริเวณนั้นหนีไปข้างหลังเขา ก่อนที่จะยิงใส่คนร้าย 10 นัดด้วยกัน

ดิกเคนครอบครองปืนพกอย่างถูกกฎหมาย เขาถูกใส่กุญแจมือและสอบปากคำโดยตำรวจในตอนแรก ก่อนที่คำให้การของเขาจะได้รับการยืนยันจากภาพจากกล้องวงจรปิด “เหตุการณ์กราดยิงเมื่อคืนอาจมีคนตายมากกว่านี้ หากไม่มีชายผู้กล้าหาญเข้าจัดการมือปืนรายนี้อย่างรวดเร็วภายในสองนาทีเท่านั้น ผมขอบอกว่าชายคนนี้คือวีรบุรุษอย่างแท้จริง” ไอสันกล่าวชม

จากการสอบสวนภายหลังพบว่า มือปืนเป็นคนท้องถิ่น อายุ 20 ปี โดยเขาเพิ่งถูกไล่ออกจากงานในโกดัง ทั้งนี้ สองในสามของผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตเป็นสามีภรรยากัน และคนที่สามเป็นชายอายุ 30 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บได้แก่ หญิงสาววัย 22 ปี และเด็กอายุ 12 ขวบ

อย่างไรก็ดี ในขณะที่กระแสการแบนอาวุธปืนในสหรัฐฯ กำลังถูกพูดถึงในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้สนับสนุนสิทธิในการครอบครองปืนได้ยกกรณีนี้ขึ้นเป็นตัวอย่างว่า การครอบครองปืนโดยพลเมืองดีเป็นสิ่งที่สำคัญ

ในเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้มีการครอบครองปืน ได้ทวีตข้อความลงบนทวิตเตอร์ว่า "ขอย้ำอีกครั้งนะ วิธีเดียวที่จะหยุดคนเลวที่มีปืน คือคนดีที่มีปืน" อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ FBI เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก จากการกราดยิงทั้งหมด 61 ครั้ง มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ที่พลเมืองดีสามารถโจมตีเพื่อหยุดมือปืนได้

เหตุกราดยิงในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงเหตุการณ์ที่ร้านขายของชำในเมืองบัฟฟาโล โรงเรียนประถมในเมืองยูแวลดี และขบวนพาเหรดที่ไฮแลนด์ ได้จุดชวนให้เกิดการโต้เถียงเกี่ยวกับกฎหมายอาวุธปืนของสหรัฐฯขึ้นอีกครั้ง


ที่มา: 

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-62217263\