หลังจากทดสอบระบบและแถลงข่าวผ่านโปรแกรม Zoom ในรูปแบบ Interactive Concert ครั้งแรก โดยค่ายเพลง What the Duck (วอท เดอะ ดัก) ซึ่งหยิบวงดนตรี 'Whal & Dolph' มาประเดิมเป็นวงแรกในคอนเสิร์ตชื่อ 'Whal & Dolph Online Market Concert' ซึ่งถือเป็นความท้าทายกับทั้งทีมงานและศิลปินที่ต้องหาวิธีการสื่อสารกับคนดูในรูปแบบใหม่ๆ
มอย - สามขวัญ ตันสมพงษ์ กรรมการผู้จัดการค่ายเพลง What The Duck กล่าวว่า เริ่มมีแนวคิดนี้มาสองสัปดาห์ก่อน เมื่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบธุรกิจดนตรี เช่น การยกเลิกงาน ศิลปินหลายคนเริ่ม Live ในโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยมีลูกค้ามาสนับสนุน ตนและทีมงานก็กลับมาคิดว่าจะสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้หรือไม่ เพราะในธุรกิจเพลง ไม่ได้มีแค่ค่ายหรือศิลปิน แต่ยังมีทีมงาน เทคนิค โปรดักชัน จอ เวที โชว์ ฯลฯ ก็ต้องถูกยกเลิกงานไปด้วย เลยปรึกษากันจนเกิดเป็นคอนเสิร์ตนี้ขึ้นมา
สำหรับมุมมองธุรกิจตอนนี้ตนยังไม่คิดถึงขนาดนั้น เพราะเป็นการทดลองของทีมงานด้วย อาจจะไม่เพอร์เฟคมาก ส่วนใครจะซื้อแล้วไปดูกันหลายคนตนก็ไม่คิดว่าขาดทุน ถ้าเทียบกับบัตรคอนเสิร์ต 1 ใบดูได้ 1 คน แต่ด้วยลักษณะของแฟนคลับของกลุ่มศิลปินวงนี้ก็ไม่แมสมาก เป็นคลับเฉพาะกลุ่ม โอกาสที่จะยกกันมาดูหลายคนพร้อมกันมากๆ คงไม่มี แต่ถ้ามีตนก็มองว่าน่ารักดี เพราะอย่างที่บอกว่าคือการทดลอง งานครั้งนี้สำเร็จก็ถือเป็นความสุขของคนดู
ถ้าถามว่าที่ตนทำแบบนี้เพราะเป็นค่ายเพลงอินดี้หรือไม่ ตนมองว่ามันไม่ใช่ความอินดี้ แต่เป็นการทดลองที่ตนยินดีให้คนที่เห็นนำเอาไปพัฒนาต่อเพื่อยกระดับวงการนี้
ออน - ชิชญาสุ์ กรรณสูต ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง What The Duck กล่าวว่า จากประสบการณ์ของตนในการดูคอนเสิร์ต พลังงานของมนุษย์ที่ช่วยสร้างให้เกิดความสนุกสนานในคอนเสิร์ตจริงๆ และมีปฏิสัมพันธ์กับศิลปินอย่างชัดเจน มันหายไป แต่ในเมื่อสถานการณ์ที่โลกมันเปลี่ยนแปลงไปก็ต้องหารูปแบบใหม่ๆ ที่ทำให้ศิลปินจะได้พบกับแฟนเพลง การ Live ที่ผ่านมาไม่มีการตอบโต้ของแฟนคลับก็จะแห้งกว่า แต่ทีมงานต้องทำการบ้านว่าจะทำอย่างไรให้เกิดพลังมวลมนุษย์แบบคอนเสิร์ตขึ้นมา เราต้องพยายามสร้างกิจกรรม และโชคดีที่แฟนคลับของวงนี้ส่วนใหญ่เก่งเทคโนโลยี กิจกรรมต่างๆ ก็จะเล่นได้ง่าย ลูกเล่นหนึ่งที่อาจจะเอามาทดแทนคอนเสิร์ตจริง คือ การหาเพื่อนใหม่ที่คนดูสามารถเข้าไปแชทและคุยกับคนดูด้วยกันได้ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนสคริปต์ของวงให้เข้ากับลูกเล่นนี้ อีกทั้งเป็นคนกลุ่มเดียวกันชอบแนวดนตรีเหมือนกันก็อาจจะคลิกกันได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ที่บ้านช่วงนี้ ได้หาเพื่อน
พล หุยประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัท H.U.I. นักออกแบบคอนเสิร์ต เผยว่า ตอนแรกจะจัดเป็นคอนเสิร์ตเล็กๆ ภายในบ้าน แต่เมื่อมีเทคโนโลยี Internet Meeting เข้ามาก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้น่าสนใจ จึงได้ทดลองแล้วพบว่าข้อดีคือคนเห็นหน้ากันได้ชัดขึ้น รู้ว่าคนดูชื่ออะไร และให้เล่นอะไรได้ง่าย ทำซีนสวยๆ ได้จากภาพจอเหล่านี้ ต่างจากคอนเสิร์ต และความสามารถในการจุคนทำได้สูงสุด 5,000 คน แต่ขึ้นอยู่กับขนาดของจอ ซึ่งตอนนี้ตนเริ่มจากเล็กๆ 1,000 คนก่อน แล้วหลังจากนี้ค่อยขยายขนาดออกไป ความต่างจากคอนเสิร์ตคือ สุดท้ายแล้วคนดูดูคอนเสิร์ตผ่านจอ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ศิลปินกับคนดูเข้าหากันได้ โดยคนดูที่ซื้อบัตรก็จะได้รับ Fish Kit เป็นถุงที่บรรจุของเล่นที่จะเอามาใช้ในคอนเสิร์ต เช่น หน้ากาก กระดาษ และไฟ หรืออาจให้เปลี่ยนพื้นหลังหน้าจอ หรือเล่นไฟเป็นทะเลดาว และการเล่นคอนเสิร์ตอาจจะไม่ต้องยาว 2 ชั่วโมง แต่ปรับเวลาให้เข้ากับรูปแบบคนดู อีกอย่างหนึ่งตนมองว่าถ้าคอนเสิร์ตครั้งนี้สำเร็จในอนาคตอาจต่อยอดไปสู่การทำคอนเสิร์ตข้ามประเทศโดยที่แฟนเพลงไม่ต้องบินมาหา ก็สามารถเข้าชมได้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่ถึงกับมาแทนที่งานแฟนมีตติ้งศิลปินซึ่งยังต้องมีอยู่
ปอ - กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ และ น้ำวน - วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ ศิลปินวง Whal & Dolph เล่าว่า การทดสอบระบบและแถลงข่าวครั้งนี้ รู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นการจัดคอนเสิร์ตที่ได้เห็นแฟนเพลงทุกคนและคุยกันได้เลย เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ต่างจากคอนเสิร์ตปกติ สิ่งที่หายไปคือพลังงานของผู้ชม แสงสี และเสียง ที่ส่งมาถึงตน แต่ Interactive Concert เป็นเหมือนการพัฒนามาจาก Live ธรรมดาที่มันยังมีดีเลย์และไม่เห็นหน้าแฟนเพลงที่เข้ามาดู ศิลปินต้องจินตนาการเอง ขณะที่คอนเสิร์ตรูปแบบนี้สื่อสารกับคนดูได้โดยตรง
น้ำวนเล่าว่าในคอนเสิร์ตปกติ เขาแทบจะไม่ได้เห็นคนดูเลย เต็มก็คือคนที่ซื้อบัตรมานั่งแถวหน้า ดังนั้นคอนเสิร์ตแบบนี้จึงดีกว่าตรงที่ตนสัมผัสได้ว่าเขามีความสุข หรือเศร้าไปกับเพลงเราแค่ไหนผ่านหน้าจอดิจิตัลขนาดใหญ่ บอกให้เขาชูมือได้ เปลี่ยนพื้นหลังได้ ซึ่งตรงนี้น่าจะทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปจากคอนเสิร์ตจริงๆ ได้
ปอ มองว่า คอนเสิร์ตก็เหมือนการออกไปพูดสื่อสารกับคนดู ไม่ใช่เอาแต่เล่นแล้วไม่สนใจคนดู จริงๆ แล้วคนดูเป็นสิ่งสำคัญในคอนเสิร์ต พอตัวเองมาได้เห็นคนดูใกล้ๆ ผ่านจอก็ช่วยได้เยอะ ส่วนลูกเล่นหรือเทคนิคที่จะเอามาใช้กับคนดูเพิ่มเติม ต้องขอกลับไปคิดก่อน อาจจะเป็นการเปลี่ยนพื้นหลัง หรือชูไฟ อย่างไรก็ตามตนยังยืนยันว่ารูปแบบนี้ดีกว่าไลฟ์แต่ไม่เท่าคอนเสิร์ต และไม่มีอะไรทดแทนพลังงานในคอนเสิร์ตจริงได้ แต่คอนเสิร์ตลักษณะนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่วงการดนตรีทำได้ เพราะออกไปหาคนดูไม่ได้ ตนอยากให้เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาต่อ เพื่อให้ผู้ชมและทีมงานในธุรกิจนี้มีงานต่อไป
'Whal & Dolph Online Market Concert' จะเปิดขายบัตรในวันที่ 25 เม.ย.2563 เวลา 10.00 น. ราคา 400 บาท และจัดคอนเสิร์ตจริงในวันที่ 9 พ.ค.นี้ผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Zoom รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้กับหน่วยงานเพื่อรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19