วันที่ 17 ส.ค. 2565 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าวการยุบสภาว่า มันอยู่ในช่วงสุดท้ายของสมัยสภาชุดนี้อยู่แล้ว หากมีอะไรขึ้นมา รัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็คงต้องดูว่าทำอะไรได้บ้าง หาความรู้รอบตัวไว้ไม่ได้เสียหาย และจะได้ไม่ขัดแย้งกับข้อกฎหมาย
อนุทิน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้แสดงความกังวลให้เตรียมตัวแต่อย่างใด ซึ่งอำนาจยุบสภาเป็นของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงท่านเดียว ไม่ต้องมาปรึกษาขอมติจากใคร ตนไม่สามารถไปเกี่ยวข้องได้ และตนเห็นว่าวันนี้ทุกพรรคทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลก็พยายามลงพื้นที่ให้เข้มแข็งเป็นเรื่องปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รอยยิ้มของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังถูกสื่อถามหาโอกาสในการยุบสภา มีเลศนัยอย่างใดหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า พอท่านหน้าบึ้งก็ไปว่าท่าน พอยิ้มก็บอกมีเลศนัย จะให้ทำอย่างไร อำนาจของนายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีมันต่างกัน อำนาจยุบสภาท่านไม่แชร์กับใคร เป็นตนก็ไม่แชร์ มันคือความเป็นนายกฯ หากวุ่นวายนักก็อาจจะยุบสภา
เมื่อถามว่า พร้อมต่อการเป็นนายกรัฐมนตรี หากมีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ อนุทิน ตอบว่า พูดแบบนี้เหมือนพูดให้หาเรื่อง ตนอยู่ในบัญชีของนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยมาสี่ปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองก็ต้องพร้อม และไปดูว่าขั้นตอนในรัฐธรรมนูญกำหนดอย่างไร อย่าตีตนไปก่อนไข้ ทุกวันนี้ทำงานได้ตามปกติอยู่แล้ว รีบทำงานให้เต็มที่
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวมองว่ากระแสของพรรคภูมิใจไทยมาแรงจนอาจทำให้ได้ที่นั่งเยอะในการเลือกตั้งครั้งหน้า อนุทิน ให้ความเห็นว่า มันมาจากการทำงานใช่ไหมล่ะ มาจากส่งมอบนโบบายให้สัญญากับประชาชน มันต้องทำงานแลกกับความเช่ื่อมั่นของประชาชน ของพวกนี้พอมาถึงจุดที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่น แล้วเรามาหยุด จะเป็นอย่างนี้ไม่ได้ ต้องทำงานแข่งกับตัวเองให้ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน
“เราไม่ได้พยายามเจาะพื้นที่ใคร พยายามทำหน้าที่นักการเมือง ภาคใต้ก็ไป ภาคเหนือก็ไป แม้แต่ กทม.ที่ไม่มีฐานเสียงก็พยายามหา เป็นนักการเมืองต้องนำเสนอให้ได้มากที่สุด ยิ่งหารด้วย 100 แล้ว ต้องส่งมากหน่อย ยังปวดหัวอยู่เลย เราทำหน้าที่ตามสิ่งที่พรรคการเมืองควรจะทำ ของพวกนี้มันอยู่ที่ประชาชนเลือก ตนก็พูดหลายทีแล้ว” อนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงการบรรจุร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เข้าที่ประชุมสภา อนุทิน ยืนยันว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรอบรรจุ หากไม่ทันก็เป็นเรื่องต้นๆ ในสมัยหน้า โดยส่วนตัวคิดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะ กมธ.ประกอบไปด้วยทุกภาคส่วน และตนฟังเสียงประชาชน เวลามีความกังวลก็นำมาใส่ในกฎหมายฉบับนี้ แต่ตอนนี้มีประกาศสธ. อยู่แล้ว ซึ่งมันกว้างกว่ากฎหมายกัญชาอยู่แล้ว จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวารนั้น อนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องกังวล ความเสี่ยงอยู่ในวงจำกัดกับกลุ่มคนบางคนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงคู่นอนบ่อยๆ โรคนี้ไม่ได้น่ากลัวแม้สภาพจะดูน่ากลัว มีเม็ดตุ่ม มีหนอง แต่มันหายได้ด้วยการใช้ยารักษาอาการ แต่ควรระวังไว้ดีที่สุด
ส่วนการเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมเอเปค อนุทิน กล่าว่า มีนายกรัฐมนตรีจากมาเลเซียมาหารือเรื่องนโยบายกัญชา เพราะมาเลเซียเริ่มที่จะนำเอากัญชาไปใช้ในทางการแพทย์ และเขามีการร่างกฎหมายอยู่ เมื่อมาประชุมตนก็จะพาดูทุกอย่างว่าตรงไหนเป็นอุปสรรค และยังมีกระท่อมที่จะเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน