ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. กล่าวว่า วันนี้ตนมาในคดีบ้านสี่เสาเทเวศร์ในสำนวนที่ 2 โดยวันนี้ศาลนัดทางอัยการ ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีที่สั่งไม่ฟ้องปล่อยให้คดีขาดอายุความ 5 คนจากจำนวน 7 คนในคดีนี้
ส่วนข้อเท็จจริงตนได้แถลงต่อศาลว่า มีบุคคลจากจำนวน 7 คน ซึ่งอยู่ต่างประเทศเพียงแค่ 2 คน ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของอัยการในการทำตามขั้นตอน ส่วนอีก 5 คนอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดีตอธิบดีศาลอาญา มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ก็อยู่บ้าน ซึ่งวันนี้คดีก็ขาดอายุความไป 5 คน และสั่งฟ้องในสำนวนที่ 2 เพียงแค่ 2 คนเท่านั้นคือ ตนและมานิตย์
ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติ คดีนี้เดิมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งฟ้อง แต่อัยการแผนกคดีพิเศษสั่งไม่ฟ้อง และต่อมาตำรวจได้มีความเห็นแย้ง จึงให้อัยการสูงสุดในขณะนั้นคือ ชัยเกษม นิติสิริ เป็นผู้ชี้ขาด ให้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งจำนวน 15 คนเป็นจำเลย และทั้ง 15 คนไม่ได้มีการร้องขอให้มีการแยกสำนวนคดีเป็น 2 สำนวน ทั้งที่อัยการมีหน้าที่อย่างเดียวคือการสั่งฟ้องทั้งหมด
ดังนั้นตนมองว่าการที่พนักงานอัยการ ได้ปล่อยให้ทั้ง 5 คนขาดอายุความนั้นส่วนตัวส่วนตัวไม่มีความประสงค์จะให้ใครต้องไปถูกดำเนินคดีอะไร แต่จะชี้ให้เห็นว่า บ้านเมืองก็ต้องมีหลักเช่นกัน ดังนั้นวันนี้ทางศาลจึงให้อัยการมาชี้แจง อย่างไรก็ตามส่วนตัวมีโอกาสเจอกับ มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ได้ยืนยันว่า อยู่ที่บ้านไม่ได้ไปไหน และหากอัยการ ฟ้องตนวันไหนก็จะฟ้องอัยการกลับในวันนั้น
จตุพร ยังยืนยันอีกว่า ตนไม่มีความหวั่นวิตกว่าจะต้องไปติดคุก เพราะผ่านการเข้าคุกมาแล้ว 4 ครั้ง เพียงแต่การดำเนินคดีของพนักงานอัยการ จะต้องมีความยุติธรรมและมีความเสมอภาค ไม่เช่นนั้น จะเลือกจะดำเนินคดีกับใคร ก็เลือกตามความพึงพอใจ ทั้งที่มีคำสั่งฟ้องทั้ง 15 คน แต่กลับปล่อยให้คดีขาดอายุความถึง 5 คน
จตุพร กล่าวอีกว่า ตนจะร้องขอความเป็นธรรมกับศาล เพราะถูกคำวินิจฉัยที่เป็นปัญหามาหลายครั้ง ตั้งแต่คดีทางแพ่ง ที่ระบุให้ไปชดใช้ค่าเสียหาย กรณีคำพิพากษาศาลฎีการะบุว่าตนพูดเหมือน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ยกฟ้องทักษิณ แต่สั่งให้จตุพรชดใช้ เพราะจตุพรเป็นประธานนปช.ทั้งที่ตอนนั้นตนไม่ได้เป็น ตนเป็น ประธานนปช. แต่เป็นหลังจากนั้นอีก 4 ปี เหล่านี้เป็นต้น รวมกระทั่งคดีอื่นๆอีกมาก
ดังนั้นในคดีนี้ตนจะไม่ยอมให้พนักงานอัยการใช้วิธีการอย่างนี้กับตน พร้อมยืนยันว่านี่ไม่ใช่เป็นการประวิงเวลา แต่นี่คือความอัปยศที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เป็นการเลือกปฏิบัติ ขนาดพวกตนยังโดนขนาดนี้แล้วประชาชนจะอยู่ในสภาพใด โดยหวังว่าวันนี้ศาลจะได้หาช่องทางออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :