การเมือง
พท.แฉ'จุรินทร์'ปล่อยคนใกล้ชิดทุจริตซื้อถุงมือยาง บี้นายกฯปรับพ้น รบ. - 'จุรินทร์'ปัดเกี่ยวข้อง
วันที่ 18 ก.พ. 2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 10 คนเป็นวันที่ 3 เริ่มต้นด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) พาณิชย์ ด้วยเหตุการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งพบคนใกล้ชิด ได้แก่ สุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ อคส. อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมทำให้ อคส.เสียหาย เป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ว่า ในการจัดซื้อถุงมือยางของ อคส. นั้น พบว่าไม่ได้ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย และขั้นตอนปฏิบัติปกติของราชการ และยังพบการทำสัญญาลวงกับ 7 บริษัทเอกชนที่ไม่เคยประกอบกิจการซื้อขายถุงมือยาง
ทั้งนี้กระบวนการเริ่มต้นเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563 เมื่อ เกียรติขจร แซ่ไต่ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย อคส. แจ้งกับที่ประชุมซึ่งมี พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการ ผู้อำนวยการ อคส. ว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2563 ว่า บริษัทเครเน็กซ์ ลอว์ ออฟฟิส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหนังสือแสดงเจตจำนงซื้อถุงมือยาง จำนวน 500 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 230 บาท และ อคส. ได้เจรจาซื้อถุงมือยางจากบริษัท การ์เดียน โกลฟ์ เมื่อว้นที่ 27 ส.ค. 2563 ทั้งที่บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 22 มิ.ย. 2563 ก่อนได้ทำสัญญา 2 เดือนมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท มี ธณรัสย์ หัดศรี เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกพิพากษาคดีฉ้อโกงและคดีอาญา และได้รับราคาเสนอขาย กล่องละ 225 บาท
"มีเงื่อนไขในสัญญาอคส.ต้องชำระเงินล่วงหน้า จำนวน 2,000 ล้านบาท ขณะที่บริษัทการ์เดียนต้องวางเงินประกัน 200 ล้านบาท ทำให้เรื่องดังกล่าวมีเงินทอน ถึง 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ในข้อสังเกตของ ผมมองว่าการเจรจาดังกล่าวไม่มีการสอบราคาไม่ได้ตรวจสอบและผิดขั้นตอน นอกจากนั้น พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยังมีหนังสือตอบให้เร่งดำเนินการโดยด่วน" ประเสริฐ ระบุ
แฉสัญญาลวง สั่งซื้อ ไม่เรียกเงินมัดจำ
ประเสริฐ อภิปรายด้วยว่า จากนั้นมีหนังสือเวียน แจ้งว่ามี 7 บริษัทเอกชนต้องการซื้อถุงมือยางจาก อคส. ได้แก่ 1.บริษัทไทยสไมล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแปรรูปผักและผลไม้ จำนวน 52 ล้านกล่อง ๆ ละ 225 บาท รวมเงิน 11,700 ล้านบาท
2. บริษัทกาโลลี่ แมนเนจเม้นท์ จดทะเบียนที่รัฐฟอลิดา สหรัฐอเมริกา ซื้อ 100 ล้านกล่องๆ ละ 223 บาท รวมเป็นเงิน 22,300 ล้านบาท
3.บริษัทเครเนค ลอว์ ออฟฟิต เป็นบริษัทจดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซื้อ 500 ล้านกล่องๆ ละ 230 บาท รวมเป็นเงิน 115,000 ล้านบาท
“ข้อสังเกตของ3 บริษัทนี้ คือเป็นสัญญาลวง ไม่มีสัญญาจริงเพื่อสร้างข้อมูลเท็จว่ามีการสั่งซื้อจำนวนมาก แต่ไม่พบการเรียกเงินมัดจำ หรือหลักประกันค้ำสัญญา ซึ่งปกติต้องมี ซึ่งสิ่งที่ผมมองว่าเป็นสัญญาลวง เพื่อต้องการอ้างเป็นเหตุว่า มีออร์เดอร์ และอคส. จำเป็นเร่งด่วนการจัดหาถุงมือยาง จึงรีบเจรจากับบริษัทการ์เดียน” ประเสริฐ กล่าว
ประเสริฐ อภิปรายต่อว่า 4. บริษัทควีนพาวเวอร์ คอมปานี จำกัด ซึ่งตรวจสอบที่ตั้งแล้วเป็นเพียสำนักงานกฎหมาย สั่งซื้อ 12 ล้านกล่องๆ ละ 210ล้านบาท มูลค่า 2,520 ล้านบาท, 5. บริษัท ทเวนตี้โฟว์ คลีน เอ็นเนอร์จี้ สั่งซื้อ 12 ล้านกล่องๆละ 215 ล้านบาท รวมมูลค่า 2,580 ล้านบาท, 6. บริษัท เคเค ออยล์ จำกัด สั่งซื้อ 50 ล้านกล่อง ๆ ละ 220 ล้านบาท มูลค่า 11,000 ล้านบาท, และ 7. บริษัท เอ แอเมทิสต์ จำกัด สั่งซื้อ 100 ล้านกล่อง ๆ ละ 210 ล้านบาท มูลค่า 21,000 ล้านบาท ทั้งที่เป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียน1ล้านบาท เท่านั้น ทั้งนี้เมื่อรวม 7 บริษัทจะมียอดสั่งซื้อ 826 ล้านกล่อง มูลค่า 186,100 ล้านบาท เฉลี่ยราคาต่อกล่อง 225 บาท ถือว่าขาดทุน
บี้นายกฯ กล้าปรับพ้น รบ.หรือไม่
ประเสริฐ ระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นที่กระทรวงพาณิชย์เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อว่ายังมีการทุจริตเกิดขึ้นในลักษณะเช่นนี้อีกหลายหน่วยงาน จึงไม่แปลกใจเลย ที่ องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ เผยแพร่ค่าดัชนีรับรู้การทุจริตพบว่า ประเทศไทยถูกจัดอันดับที่ 101 จาก 180 ประเทศ แย่ลงกว่าในอดีตที่ผ่านมา
"พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะกล้าปรับเอา จุรินทร์ รมว.พาณิชย์ ออกหรือไม่ เชื่อว่าท่านคงไม่กล้า เพราะ จุรินทร์ รมว.พาณิชย์และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นฐานเสียงสำคัญที่สนับสนุนท่านให้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งหลายทั้งปวง ที่ผมได้นำเรียนท่านประธาน ในการอภิปรายครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นการวางแผนร่วมมือกันทุจริตอย่างเป็นระบบ เพื่อเอาเงินหลวงจากองค์การคลังสินค้ามาเป็นประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง ซึ่งขณะนี้เงินหลวง 2 พันล้านบาทได้อันตรธานหายไป กระผมจึงถือว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทุจริตอย่างหน้าด้าน ปล้นชาติ โดยช่วยกันคิด แบ่งแยกหน้าที่กันทำ ร่วมกันหาประโยชน์ อย่างไร้ยางอาย”
'จุรินทร์' ปัดข้อหาทุจริตซื้อถุงมือยาง ย้ำไม่เคยเกี่ยวข้อง
ขณะที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดตั้งแต่ อดีตผอ.องค์การการค้ากับพวก บริษัทการ์เดียนโกลฟ์ และอีก 7 บริษัท หรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องตน เห็นด้วยทุกประการไม่มีอะไรไปโต้แย้ง แต่ขอปฏิเสธว่า ตนไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง ยุ่งเกี่ยวกับโครงการนี้ และการดำเนินการนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ ไม่เป็นทาง การแอบสั่งการในที่ลับหรือในที่แจ้ง
จุรินทร์ ระบุว่า ผู้อภิปรายโกหกหลายประการที่ประชุมคือ 1. เรื่องกรรมาธิการพาณิชย์มีการกล่าวพาดพิงถึงรัฐมนตรีมีจริง แต่ท่านอ้างไม่หมด 2. ที่กล่าวหาว่าตนไม่เคยตั้งกรรมการสอบไม่จริง ตนมีการตั้งกรรมการสอบโดย ผอ. องค์การคลังสินค้าคนใหม่ 3.ตนไม่ได้อายัดเงินหรือหน่วยงาน ทั้งที่มีอำนาจกลับไม่อายัดเงินก็ไม่จริง 4. ไม่เคยดำเนินคดีก็ไม่จริง 5. ใครก็ไม่ทราบเคยมากินข้าวห้องตน แต่ท่านไม่ยืนยันว่าเป็นใครก็ไม่เป็นไร ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าหมายถึงใคร อย่างไรบ้าง
จุรินทร์ กล่าว่า ท่านบอกว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์ออกสื่อหรือแถลงข่าวก็ไม่จริง เพราะตนให้สัมภาษณ์เรื่องนี้หลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระมาโดยตลอด แต่ไม่ค่อยเป็นข่าวใหญ่โตพาดหัวหน้าหนึ่ง จนตนก็เคยตั้งข้อสังเกตว่าเพราะอะไร ก็เพราะว่าเขาทราบว่ารัฐมนตรีไม่โกง มันเป็นแค่การดำเนินการในระดับเจ้าหน้าที่ ตนไม่ได้โยนให้เจ้าหน้าที่ แต่เป็นข้อเท็จจริง และล่าสุดแถลงข่าวชี้แจงแต่โทรทัศน์ทุกช่องเป็นข่าวจุ๊บจิ๊บนิดเดียว ส่วนกล่าวว่านายกรัฐมนตรีนั่งเฉย ไม่จริง หลังจากย้ายผอ. องค์การคลังสินค้าทันทีที่ตนทราบเรื่องนี้ได้ดำเนินการย้ายอดีตรักษาการไปประจำสำนักนายกฯ โดยคำสั่งนายกฯซึ่งได้ดำเนินการทันที
"เพราะฉะนั้นหากใครรู้จักนายกฯ รู้จักรัฐมนตรี ไม่ใช่ว่าท่านจะมีอำนาจล้นฟ้าถ้าทำความผิดก็ต้องเข้าคุก และเรื่องนี้ผมไม่ยอม ไม่ว่าใครทุจริตโครงการนี้ก็ตามผมจะจัดการทางวินัย ทางแพ่ง และทางอาญาจนถึงที่สุดตราบที่เท่าที่ผมอยู่ในอำนาจหน้าที่ และกฎหมายให้อำนาจผม การที่นำเทปมาเปิดทำให้คนเข้าใจผิดว่าเกี่ยวข้องกับผม"
ส่วนที่บอกว่ามอบนโยบายเตรียมการทุจริตให้ประธานบอร์ดไปดำเนินการซื้อขายถุงมือยาง สอดคล้องนโยบายรัฐบาลแถลงต่อสภาว่ากระทรวงพาณิชย์ จัดการดูแลให้ผู้ส่งออกผู้นำเข้าค้าขายยางออนไลน์ รวมทั้งตลาดถุงมือยางและอื่นๆเป็นงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่มีเป้าหมายชัดเจนที่จะช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อส่งออกถุงมือยางธรรมชาติ ไม่ใช่ถุงมือยางทุจริตที่พูดในสภา และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่อสามารถทำรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก
"ในการพบปะระหว่างผู้นำเข้าส่งออกของประเทศไทยและตอนทำสัญญาแสนล้าน จุรินทร์อยู่ไหน ผมก็ตอบไม่ถูก เพราะไม่ทราบ และไม่ได้ ร่วมกระบวนการสมคบกับใครทำสัญญาแสนกว่าล้านบาท และทันทีที่ทราบ ผมคือคนแรกหลังจากพบผอ.อคส. คนใหม่เข้ามาสั่งให้ตรวจสอบ เมื่อพบว่ามีผู้การโอนเงินอคส. 2 พันล้านออกไปจากบัญชี และมีการทำสัญญาแสนกว่าร้านซื้อขายโดยไม่มีอำนาจ และนายกฯได้สั่งย้ายอดีตผอ.อคส.ไปสำนักนายกฯเพื่อสะดวกในการดำเนินการจัดการเอาคนผิดมาลงโทษ" จุรินทร์ กล่าว
ปชป.ประท้วง ใช้เอกสาร กมธ.พาณิชย์
การอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่สามได้เริ่มตึงเครียด เมื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ได้ลุกขึ้นขอใช้สิทธิพาดพิง ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา หลัง ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ จุรินทร์ โดยใช้เอกสารของ กมธ.การพาณิชย์ฯ มาใช้ในการอภิปราย โดยระบุว่า ระเสริฐถูกลูกน้องต้ม เพราะเอกสารที่นำมาอภิปรายหลายประเด็นเป็นเอกสารที่ยังไม่ได้มีการรับรอง ทำให้ ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน ลุกขึ้นทักท้วงทันที เนื่องจากเป็นการชี้แจงแทนรัฐมนตรี จนเกิดการโต้เถียงกันไปมา
กระทั่ง ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ของ ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยระบุว่า “เหตุที่เกิดขึ้น เพราะท่านประธานไม่เด็ดขาด และไม่ตัดปัญหาไว้ก่อน ปัญหาก็ตามมาเรื้อรัง นี่ในฐานะพรรคเดียวกันครับ อายเขาครับ ด้วยความเคารพครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
