เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ว่า จากผลศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 พบว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อบกพร่องที่ต้องได้รับการแก้ไขในทุกหมวด เป็นรัฐธรรมนูญที่มีจุดอ่อนในเรื่องการสืบทอดอำนาจของ คสช.ที่ต้องได้รับการแก้ไข อย่างน้อย 5 ประเด็นคือ
1.บทเฉพาะกาล ตั้งแต่มาตรา 269 ถึง มาตรา 272 เรื่องที่มาและอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธาน คสช. และมีสิทธิโหวตเลือกประธาน คสช. เป็นนายกรัฐมนตรีได้ นับว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของ คสช. อย่างชัดเจนที่สุด
2.ระบบการเลือกตั้ง แบบสัดส่วนผสมใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เป็นส่งเสริมการซื้อสิทธิขายเสียง ซื้อ 1 เสียงได้ทั้ง ส.ส.เขต, ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ, แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเป็นการกดดันผู้เลือกตั้งในการตัดสินใจเลือกระหว่างพรรคการเมืองกับตัวผู้สมัคร แต่ถ้าหากใช้บัตร 2 ใบ ก็สามารถตัดสินใจเลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบได้
3.เรื่องการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่มีความชัดเจนในเรื่องการส่งเสริมให้ท้องถิ่นบริหารจัดการตนเอง และสมัยรัฐบาล คสช.ได้ให้ความสำคัญกับระบบข้าราชการประจำมากกว่าตัวแทนประชาชน
4.หมวดสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มีจุดอ่อนและข้อด้อยกว่าในบทบัญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550
5.เรื่ององค์กรอิสระที่ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลซึ่งกันและกันโดยเฉพาะองค์กรของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
เมื่อพิจารณาจากจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ประเด็นแล้วพบว่า ขัดต่ออุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค เมื่อ 6 เม.ย. 2489 ซึ่งผ่านมา 74 ปีแล้วแต่ยังคงทันสมัยอยู่จนถึงปัจจุบัน และในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง พร้อมที่จะขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป