นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีประชาชนพากันไปจับจ่ายใช้สอยผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก อย่างไรก็ตาม อาจส่งผลให้ร้านค้าหรือห้างสะดวกซื้อบางแห่งมีคนต่อแถวเพื่อรอคิวเป็นเวลานานกว่าปกติ แต่ผู้ประกอบการก็พยายามที่จะวางระบบบริหารการจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอย้ำเตือนผู้ประกอบการห้างร้านทั้งหลายว่า ห้ามไม่ให้มีการเอาเปรียบประชาชนที่ได้รับสิทธิจากโครงการดังกล่าว เช่น ออกคูปองจำนวน 1,000 บาท หรือเงื่อนไขอื่นใดเพื่อให้ประชาชนซื้อของเฉพาะในห้างหรือร้านของตัวเองเต็มวงเงิน เพราะหากได้รับการร้องเรียนเเละมีการตรวจพบว่ากระทำการลักษณะดังกล่าวจริง ก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยการยกเลิกสิทธิการเข้าร่วมโครงการทันที รวมถึงขึ้นบัญชีดำสำหรับการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ในอนาคต
พร้อมกันนี้ยังแนะนำประชาชนว่าหลังจากได้รับ SMS ยืนยันสิทธิและมีการเปิดใช้ครั้งแรกภายในระยะเวลา 14 วันแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมดภายในครั้งเดียวเท่านั้น เงินส่วนที่เหลือยังนำไปใช้ยังสถานที่อื่นๆ ภายในจังหวัดที่ลงทะเบียนเอาไว้ได้ จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2562 โดยสามารถใช้ซื้อสินค้าจำเป็นที่ใช้ในครัวเรือน ซื้ออาหาร หรือใช้เป็นค่าที่พักในการเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องใช้จนหมดในครั้งครั้งแรกครั้งเดียว ที่สำคัญยังสามารถเติมเงินเข้าไปในกระเป๋าที่ 2 เพื่อนำไปใช้ยังสถานที่ต่างๆ ได้ทั่วประเทศ โดยจะได้รับเงินคืนสูงสุด ร้อยละ 15 หรือ 4,500 บาท ต่อคน หลังสิ้นสุดโครงการ 30 พ.ย. 2562 และเงินดังกล่าวจะได้รับคืนไม่เกิน 1 เดือนหลังสิ้นสุดโครงการ