นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์สื่อด้วยถ้อยคำล่อแหลมและหยาบคาย เกินกว่าที่สังคมจะรับได้ กรณีการแก้ไขปัญหาของกลุ่มผู้เดือดร้อนมายื่นหนังสือให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกไปรับฟังปัญหากับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมกับอธิบดีกรมประมง และได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาแล้ว แต่นายวิโรจน์ ยังออกอาการซาดิสม์ เล่นการเมืองแบบ “สายแว๊นซ์” ใช้คำพูดน่าเกลียดเกินที่สังคมสุภาพจะรับไหว
‘ไม่เคยนึกเลย ว่านายวิโรจน์จะลั่นวาจาคำว่า นายกไม่รู้สี่รู้แปด กับสื่อได้ เพราะคำแบบนี้สังคมทั่วไปก็รู้ว่าเป็นการเล่นคำภาษา ซึ่งมาจากคำหยาบคาย เกินกว่าที่คนเป็นผู้แทนประชาชนจะให้สัมภาษณ์ได้ สะท้อนให้เห็นถึงวาจา ที่โบราณว่าไว้ “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ” หรือไม่ นายวิโรจน์เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ 1ใน3 เสาหลักผู้ทรงเกียรติของประเทศ ควรใช้ภาษาของคนที่มีศิลปะการศึกษาพูดกัน เพราะภาษาเหล่านี้ควรปล่อยให้ “เด็กแว๊นซ์บอยสก๊อยซ์เกิร์ล” เอาไว้คุยกันในวงแว๊นซ์จะดีกว่า’
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่าเรื่องการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการดำเนินการแก้ไขปัญหาในทุกพื้นที่ซึ่งหลายพื้นที่ได้แก้ปัญหาจนปริมาณลดลง จนเกิดความสมดุลทางธรรมชาติ แต่ยังมีบางพื้นที่ที่อาจจะมีปัญหาบ้าง ซึ่งรัฐบาลโดยกรมประมงและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาให้กับกลุ่มพี่น้องประชาชน แต่พรรคฝ่ายค้านไม่ควร กระโดดไปอยู่หน้าม็อบแล้วให้สัมภาษณ์ โดยเอามาเป็นปัญหา เล่นการเมือง
‘ส่วนที่ นายวิโรจน์ เล่นงิ้วหน้าม่านกล่าวหาว่านายก ฯ “ตีนแดงตะแคงตีนเดิน” ไม่ลงพื้นที่นั้น ไม่เข้าใจว่านายวิโรจน์หายป่วยหรือยัง หรือแกล้งตาถั่วมองไม่เห็นหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาท่านนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม จ.เชียงใหม่เชียงราย นครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานีลงพื้นที่แก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงพื้นที่แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จ. สระแก้ว ตรงข้ามปอยเปต ลงพื้นที่แก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด ถ้านายวิโรจน์ไม่เห็นก็ควรจะไป ลอกต้อกระจก ที่ตาบ้างจะได้ไม่ไปกล่าวหาคนอื่นในลักษณะเช่นนี้อีก วันนี้ประเทศก้าวข้ามความวุ่นวายมามากพอแล้วอยากให้เป็นฝ่ายค้านในเชิงสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพจริงๆไม่ใช่ใช้ถ้อยคำหยาบคายในลักษณะเช่นนี้ซึ่งตนอยู่สภาฯ มาหลายสมัย ไม่เคยได้ยินคำลักษณะเช่นนี้จากปากของผู้แทนราษฎรมาเลย’ นายจิรายุ กล่าว