ต่างประเทศ
ญี่ปุ่นคาดพายุไต้ฝุ่น 'ฮากิบิส' แรงสุดในรอบ 60 ปี
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเตือนประชาชนระวังพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 19 'ฮากิบิส' เตรียมซัดขึ้นฝั่งในวันที่ 12 ต.ค. ด้วยความเร็วลมสูงสุดประมาณ 216 กม./ชม. เป็นความแรงเทียบเท่ากับไต้ฝุ่นที่กระหน่ำญี่ปุ่นเมื่อปี 1958 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายประมาณ 1,200 คน
ขณะที่พายุไต้ฝุ่น 'ฮากิบิส' ซึ่งเคลื่อนตัวสู่ฝั่งญี่ปุ่นในวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ถือเป็นหนึ่งใน 'ซูเปอร์ไต้ฝุ่น' ในปีนี้ และคาดว่าจะรุนแรงกว่าพายุฟ้าใสที่กระหน่ำกรุงโตเกียวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยอิทธิพลพายุฮากิบิสอาจทำให้เกิดฝนตกกระหน่ำหนักสุดในรอบ 60 ปี ลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ และอาจทำให้เกิดคลื่นซัดฝั่ง กระทบพื้นที่เขตคันไซ-คันโต-โทไก และฮอกไกโด
ชาวประมงและเรือโดยสารได้รับคำเตือนให้งดออกจากฝั่ง เพราะจะเจอกับคลื่นสูงและลมพายุรุนแรง ส่วนประชาชนจำนวนมากแห่ซื้อของกักตุนจนทำให้เกิดภาวะ 'สินค้าขาดแคลน' ในหลายพื้นที่
ขณะเดียวกัน รถไฟความเร็วสูงหยุดให้บริการชั่วคราว เพื่อป้องกันเหตุขัดข้องหรืออุบัติเหตุจากกรณีไฟฟ้าดับ ส่วนเที่ยวบินและเรือโดยสารจำนวนมากถูกระงับ ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมาก ส่วนธุรกิจอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์ ซึ่งประกาศปิดบริการชั่วคราวในวันที่ 12 ต.ค.
แม้แต่ 'รักบี้เวิลด์คัพ' ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพก็ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปหลายนัด และผู้จัดงานต้องตรวจความพร้อมสถานที่ให้แน่ใจว่าสิ่งปลูกสร้างต่างๆ แข็งแรงพอ
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโตเกียวประกาศเตือนคนไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการออกจากที่พักในช่วงพายุ พร้อมแนะนำให้เตรียมอาหารและน้ำให้เพียงพอสำหรับอย่างน้อย 3 วัน รวมถึงไฟฉายและของใช้จำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ส่วนนักท่องเที่ยวต้องติดตามข่าวสารใกล้ชิด ตรวจสอบเส้นทางพายุ-ระวังการเดินทาง หากต้องการสอบถามหรือขอความช่วยเหลือให้ติดต่อ Hotline สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว + 81 (0) 90 4435 7812 Hotline สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา + 81 (0) 90 1895 0987 + 81 (0) 90 5151 5860 Hotline สถานกงสุลเมืองฟูกูโอกะ + 81 (0)90-9572-1515 + 81 (0)90-2585-3027
ทั้งนี้ 'ฮากิบิส' เป็นภาษาตากาล็อกของฟิลิปปินส์ มีความหมายว่า 'ความเร็ว' หรือ 'ว่องไว' และการพยากรณ์อากาศที่คาดว่าพายุไต้ฝุ่นลูกนี้จะทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง ส่งผลให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากติดแฮชแท็ก #SaveJapan เพื่อให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นล่วงหน้า
ที่มา: The Guardian/ Mainichi/ NHK
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
