คนในท้องถิ่นกล่าวว่า พวกเขากำลังขาดอาหารและน้ำดื่ม เพราะการบริการส่งอาหารและน้ำดื่มต้องหยุดชะงัก สืบเนื่องมาจากจากสงครามแก๊ง ชาวบ้านคนหนึ่งถึงกับให้นิยามชีวิตของตนว่า “เป็นวังวนแห่งความกลัวและความสิ้นหวัง” 

สงครามแก๊งปะทุขึ้นหลังจากการลอบสังหาร โฌเวอแนล โมอิส อดีตประธานาธิบดี โดยกลุ่มทหารรับจ้างเมื่อประมาณปีที่แล้ว แต่ความรุนแรงกลับปะทุเพิ่มมากขึ้น หลังจากมีการปะทะกันของแก๊ง G-9 และ G-Pep ในวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา

องค์การสหประชาชาติระบุว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 209 คนระหว่างวันที่ 8 ถึง 17 ก.ค. โดย 114 คนในนั้นเป็นสมาชิกแก๊งอันธพาล เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนยิง 254 คน เกินครึ่งหนึ่งเป็นชาวบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊ง

ผู้นำเยาวชนจากบรูคลิน ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้กับซิทอีโซเลียวที่มีการต่อสู้กันมากที่สุดกล่าวว่า “ผมได้ยินเสียงปืนทั้งในยามหลับและยามตื่น ผมเครียดมาก แม้ผมจะกลัวเสียงปืนมากก็ตามแต่ผมก็จำต้องฟังจังหวะของเสียงปืนเพื่อให้นอนหลับ นี่เป็นทางเดียวที่ผมจะรอดไปในแต่ละวันได้” 

“บางทีอาจจะใช้เสียงเพลงเพื่อกลบเสียงปืนได้ แต่ถ้ามีคนมายิงปืนใกล้ๆบ้าน เสียงมันก็จะดังมากๆ” ชายผู้ไม่ประสงค์ออกนามเพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเองกล่าว  

ประชาชนราว 3,000 คนจำเป็นต้องหนีตาย หลายคนสูญเสียบ้านเพราะถูกเผาทำลายโดยพวกแก๊งอันธพาลในขณะที่อีกหลายคนไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกลัวโดนลูกหลงจนเสียชีวิต

เนื่องจากเชื้อเพลิง อาหารและน้ำดื่มกำลังขาดแคลน โครงการอาหารโลกและกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติได้เริ่มให้ความช่วยเหลือโดยตรงไปยังผู้คนในซิทอีโซเลียว เยาวชนหลายร้อยคนถูกเร่งอพยพไปยังโรงเรียนมัธยมในเมืองหลวง ผู้นำเยาวชนจากซิทอีโซเลียวกล่าวว่า เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรุนแรงจะสิ้นสุดเสียที เพื่อที่เขาจะได้กลับไปทำงาน เพื่อให้เยาวชนในเขตที่ถูกแก๊งอันธพาลปกครอง กลับมาเล่นกีฬาด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง

ที่มา: 

https://www.bbc.com/news/world-latin-america-62292007