วันที่ 7 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยในรัฐอิสราเอลว่า สถานะล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 34 ราย และบาดเจ็บ 18 คน โดยในจำนวนนี้มี 4 คน กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 24 คน อยู่ระหว่างรอฟังข่าวดี ว่าจะได้รับการปล่อยตัวในช่องทางที่ปลอดภัยบริเวณชายแดนระหว่างประเทศเป็นกลุ่มแรกหรือไม่
ปานปรีย์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้เดินทางไปประเทศกาตาร์ และอียิปต์ได้รับข้อมูลจากผู้นำระดับนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ทราบว่า ตัวประกันยังอยู่ในเขตฉนวนกาซ่า เพียงแต่คนที่จับตัวไปมีกลุ่มอื่นประมาณ 2-3 กลุ่ม ไม่ใช่กลุ่มฮามาสเพียงอย่างเดียว ดังนั้น ตัวประกันน่าจะแยกกันอยู่ แต่หากมีการปล่อยตัวประกัน คิดว่าจะปล่อยในช่องทางที่ปลอดภัย เช่น ชายแดนประเทศอียิปต์ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับอียิปต์ไว้แล้ว โดยให้เจ้าหน้าที่ไทยสามารถไปรับตัวแรงงานไทยในอิสราเอลที่ถูกปล่อยตัวในช่องทางนั้นได้
ปานปรีย์ กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือคนไทยอพยพกลับ ขณะนี้ไม่มีแรงงานที่ประสงค์จะเดินทางกลับมาแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้น 10,000 กว่าคน แจ้งว่าอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยดี ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ จึงได้ดำเนินการปิดตัวศูนย์พักพิงชั่วคราวลง แต่ก็ยังมีศูนย์พักพิงชั่วคราวของทางสถานเอกอัครราชทูตฯอยู่เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพแรงงานไทยระหว่างถูกจับกุมตัวนั้น ปานปรีย์ ระบุว่า ภาพดังกล่าวตนได้เห็นแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าผู้ที่ถูกจับกุมเป็นคนไทยหรือไม่ เพราะยากที่จะยืนยันเนื่องจากมีแรงงานหลายสัญชาติถูกจับไป