ไม่พบผลการค้นหา
กลุ่ม ‘ราษฎร’ เปิดแคมเปญ ‘โหวตเพื่อเปลี่ยน’ ปลุกประชาชนจับตาการเลือกตั้ง กดดัน กกต. ตรวจสอบการหาเสียงอย่างเท่าเทียม จี้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลปฏิรูป ‘การเมือง-กระบวนการยุติธรรม-สถาบันฯ’

วันที่ 22 มี.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘ราษฎร’ นำโดย ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล พร้อมด้วย อานนท์ นำภา และภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำราษฎร และเครือข่าย จัดกิจกรรมแถลงข่าวกิจกรรม “โหวตเพื่อเปลี่ยน” (Vote for change) เพื่อประกาศจุดยืน และแสดงข้อเรียกร้องต่างๆ ที่มีต่อการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. โดยระบุว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ภายใต้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่บริหารเศรษฐกิจของประเทศล้มเหลว และปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน 

ดังนั้นวันนี้จึงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเผด็จการออกไป และจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ตลอดจนปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมด้วย เพราะหลายปีที่ผ่านมาเพื่อนเราถูกทำร้ายร่างกายและถูกคุมขัง เพียงแค่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง 

อานนท์ กล่าวว่า กว่า 3 ปีที่มีการต่อสู้เรียกร้องของประชาชน อย่างไรก็ตามที่พวกเราออกมาก็มีทั้งการบาดเจ็บในเสรีภาพ และร่างกาย แม้ว่าการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง ข้อเรียกร้องทุกข้อในการต่อสู้จะยังคงเดินหน้าต่อไป วันนี้พวกเราได้เตรียมขั้นตอนการเรียกร้อง และเสนอกฎหมายเข้าสู่สภาภายหลังได้รัฐบาลมาจากประชาชน จึงเรียกร้องให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยระลึกถึงเสมอว่า พวกท่านเกิดขึ้น และเติบโตจากหยาดเหงื่อของประชาชนตั้งแต่คนเสื้อแดง และคนรุ่นใหม่ 

ด้าน ปนัสยา กล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ต้องฟรี และแฟร์ในทุกระดับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องมีมาตรฐานการตรวจสอบการหาเสียงอย่างเท่าเทียม และไม่เลือกปฏิบัติ และการแบ่งเขตของ กกต. ต้องมีคำตอบให้ได้ว่า การแบ่งเขตนั้นเพื่ออะไร เพื่อใคร และทำไมถึงซอยย่อยได้ถึงขนาดนั้น อีกทั้งการนับคะแนนต้องโปร่งใส จึงเรียกร้องให้มีการนับคะแนนแบบเรียลไทม์ ส่วนพรรคการเมืองต้องโปร่งใสในการหาเสียง และขอร้องให้ไม่มีการโจมตีทางการเมือง สู้กันด้วยนโยบาย 

ส่วนประชาชนขอร้องให้ทุกคนร่วมกันจับตาการเลือกตั้งในทุกหน่วย และร่วมกันตรวจสอบการหาเสียงของทุกพรรค และภายหลังการหย่อนบัตรจึงอยากให้ทุกคนร่วมกันอยู่ที่คูหาเพื่อจับตาการนับคะแนนว่า มีความโปร่งใสหรือไม่ รวมถึงตัวละครทางการเมืองต่างๆ อาทิ ทหาร กองทัพ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องไม่ใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซงในการเลือกตั้ง

ปนัสยา กล่าวย้ำอีกว่า ขอให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยชนะแบบถล่มทลาย เพื่อสามารถรวมเสียงส่วนใหญ่ในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน และให้ประชาชนใช้การเลือตั้งครั้งนี้เพื่อสามารถล้มเผด็จการให้ได้ เพื่อนำมาสู่การเปลี่ยนแปลง และปฏิรูปทุกองคาพยพ นำการแก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 เข้าสู่สภา แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กองทัพ และสถาบันฯ โดยวันที่ 28 มี.ค. นี้ จะนำเสนอ และลงรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว เพื่อมีการเสนอข้อเรียกร้องการจัดตั้งรัฐบาล และเสนอนโยบายขั้นต่ำของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 

ขณะที่ ภัสราวลี อ่านแถลงการณ์โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ประการ ได้แก่ 1.การเลือกตั้งต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม’ โดยประชาชนทั้งประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการพิทักษ์เจตจำนงในการเลือกผู้แทนราษฎร ผ่านกิจกรรมจับตาเลือกตั้งสอดส่องการหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร กดดัน และจับตาการปฎิบัติหน้าที่ของ กกต. และหน่วยงานของรัฐบาลให้อยู่บนหลักของความบริสุทธิ์ โปร่งใส และยุติธรรม

2.การเลือกตั้งที่ฝ่ายประชาธิปไตยชนะไปด้วยกัน’ เรียกร้องต่อประชาชนและบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทั้งปวงให้เดินหน้าร่วมกันเอาชนะฝ่ายเผด็จการผ่านการเลือกตั้ง และผนึกกำลังพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล 

3.การเลือกตั้งเพื่อการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างแท้จริง’ ซึ่งภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันของฝ่ายประชาธิปไตย รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าสู่การปฏิรูปในทุกองคาพยพ ทั้งการปฏิรูปเศรษฐกิจ ปฏิรูปทางการเมือง ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์