สำนักนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเปิดเผยในก่อนหน้านี้ว่า ซูนัคไม่ว่างเนื่องจากต้องเตรียมการเรื่องกฎหมายงบประมาณประเทศในวันที่ 17 พ.ย.ที่จะถึง จึงไม่สามารถเดินทางไปร่วมพิธีเปิดการประชุม COP27 ในวันอาทิตย์ดังกล่าวได้
ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวถูกนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พรรคฝ่ายค้าน และ อาล็อก ชาร์มา ที่ปรึกษาด้านสภาพอากาศ วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างรุนแรง
อย่างไรก็ดี ซูนัคทวีตข้อความใหม่ยืนยันว่า “จะไม่มีความมั่งคั่งในระยะยาว หากไม่มีการดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” หรือความมั่นคงด้านพลังงาน โดยไม่มีการลงทุนในด้านพลังงานหมุนเวียน “นั่นคือเหตุผลที่ผมจะเข้าร่วม @COP27P ในสัปดาห์หน้า เพื่อส่งมอบมรดกของกลาสโกว์ ในการสร้างอนาคตที่ปลอดภัยและยั่งยืน”
ในช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (1 พ.ย.) บอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ให้การยืนยันว่า ตนจะเดินทางไปร่วมการประชุมสภาพอากาศ COP27 ณ เมืองชาร์ม เอล ชีค ทางตอนใต้ของอียิปต์ ทั้งนี้ จอห์นสันเคยเป็นนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรในฐานะเจ้าภาพการประชุมในครั้งนั้น เมื่อช่วงการประชุม COP26 ณ กลาสโกว์ สกอตแลนด์ เมื่อปีที่แล้ว
แคโรไลน์ ลูคัส ส.ส.พรรคกรีน เรียกการตัดสินใจกลับลำของซูนัคว่าเป็น “การกลับรถดังเอี๊ยด” หลังจากนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร “ก้าวพลาดอย่างน่าอับอายบนเวทีโลก” ลูคัสกล่าวเสริมถึงซูนัคว่า “ให้สิ่งนี้เป็นบทเรียนสำหรับเขาว่าการเป็นผู้นำด้านสภาพอากาศมีความสำคัญ”
นอกจากนี้ แองเจลา เรย์เนอร์ รองหัวหน้าพรรคแรงงานกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ “น่าอาย” ที่นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรถูก “ลากและกรีดร้องให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง” นอกจากนี้ วีรา ฮอบเฮาส์ โฆษกพรรคเสรีประชาธิปไตยกล่าวว่า “การพังทลายทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่าสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับ ริชี ซูนัค เขาเพียงแต่รู้สึกอับอาย เพราะการเข้าร่วมของ บอริส จอห์นสัน เท่านั้น”
ผู้นำนานาชาติอีกหลายคนได้ตอบตกลง ที่จะเดินทางไปร่วมการประชุม COP27 ในวันที่ 17 พ.ย.นี้เช่นกัน เช่น โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ก่อนหน้านี้ ลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรคนก่อน มีกำหนดการที่จะเดินทางเยือนการประชุม COP27 ณ อียิปต์ด้วย เช่นเดียวกันกับ นิโคลา สเตอร์เจียน มุขมนตรีสกอตแลนด์ ที่จะเดินทางไปร่วมการประชุมเช่นกัน
ในช่วงเมื่อวานนี้ โฆษกประจำสำนักงานของซูนัคให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาล “มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” ในเรื่องกฎหมายงบการเงินของประเทศ
ที่มา: