แต่ที่เด่นชัดขึ้นในห้วงนี้คือการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปี 2562 แม้ตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ จะมีเกษียณฯ เพียง ผบ.ทอ. หลัง ‘บิ๊กต่าย’พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. เกษียณฯ ปีนี้ โดยคาดว่า พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ เสธ.ทอ. จะขึ้นเป็น ผบ.ทอ. คนต่อไป
แต่กองทัพที่ถูกจับตามาตลอด อย่างกองทัพบก ที่เป็นกองทัพคุมกำลังใหญ่ที่สุด แม้ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. (ตท.20) จะเกษียณฯปี63 แต่ในส่วนของ 5 เสือทบ. มีการขยับเพียง 2 ตำแหน่ง โดยชื่อ ‘บิ๊กเล็ก’พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผบ.ทบ. ‘บิ๊กเป้ง’พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสธ.ทบ. ยังคงตำแหน่งเดิม ช่วยงาน พล.อ.อภิรัชต์ ไปอีก 1 ปี
สำหรับ 2 ตำแหน่งที่ขยับคือ ผู้ช่วยผบ.ทบ. นั้น ‘บิ๊กตี๋’พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ เกษียณฯปีนี้ ส่วน ‘บิ๊กตู่เล็ก’พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ข้ามไปเป็น รองปลัดกลาโหม ครองอัตรา พลเอกพิเศษ ก่อนเกษียณฯปี63
โดยมีชื่อ ‘บิ๊กบี้’พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 และ ‘บิ๊กนัย’พล.ท.สุนัย ประภูชะเนย์ผบ.นสศ. ขึ้นมานั่ง ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ครองอัตราพลเอก โดยเฉพาะชื่อ พล.ท.ณรงค์พันธ์ (ตท.22) ที่เต็งหนึ่งขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คนต่อไป ต่อจาก พล.อ.อภิรัชต์ โดย พล.ท.ณรงค์พันธ์ จะเกษียณฯปี66 เติบโตมาจาก หน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF ร.31 รอ. ทหารหมวกแดงของ พล.1 รอ.
(พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้)
ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ กับ พล.ท.ณรงค์พันธ์ มีความใกล้ชิดกันและเห็นฝีมือกันมานานแล้ว โดยเฉพาะช่วงปี2547-2548 ทั้งคู่ลงไปประจำที่หน่วยเฉพาะกิจ14 อ.ธารโต-เบตง จ.ยะลา ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา จชต. และเข้าใจปัญหาที่เกิดในพื้นที่เป็นอย่างดี และลงพื้นที่ จชต. บ่อยครั้ง
โดย พล.ท.ณรงค์พันธ์ เคยเป็นผู้บังคับกองพันที่ ร.2 พัน 2 รอ. ก่อนถูกจึงมาเป็นฝ่ายเสธ.ที่ พล.1 รอ. แล้วไปเติบโตที่ ร.31 รอ. ก่อนกลับเข้าไลน์ พล.1 รอ. ได้ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. แล้วมาเป็น รองแม่ทัพภาคที่ และ แม่ทัพภาคที่ 1
โดยเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญจากปีที่แล้ว ที่ พล.ต.ณรงค์พันธ์ ขึ้นเป็น รอง มทภ.1 เมื่อโยกย้ายกลางปี เม.ย.62 ที่ขยับมาจากตำแหน่ง ผบ.พล.1 รอ. โดยได้โยก ‘บิ๊กอู๋’พล.ต.วุฒิชัย นาควานิช น้องชาย ‘บิ๊กหมู’พล.อ.ธีรชัย นาควานิช อดีต ผบ.ทบ. จาก รอง มทภ.1 ไปเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. ครองอัตราพลโท มาแล้ว เพื่อเปิดทางให้ พล.ต.ณรงค์พันธ์ ขึ้นเป็น รอง มทภ.1 และขึ้นเป็น มภท.1 เมื่อโผโยกย้ายปลายปี (ต.ค.61) จึงถูกจับตาตั้งแต่ช่วงนั้นแล้วว่า พล.ท.ณรงค์พันธ์ จะเป็นแคนดิเดต ผบ.ทบ. คนต่อไป
ทั้งนี้ พล.ท.ณรงค์พันธ์ เป็น ‘นายทหารพิเศษ’ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ และดำรงตำแหน่งเป็น รองผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (รองฉก.ทม.รอ.904) ที่มี พล.อ.อภิรัชต์ เป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 อีกทั้ง พล.ท.ณรงค์พันธ์ ผ่านการฝึกหลักสูตร ‘ทหารมหาดเล็กราชวัลลภ’ มาด้วย
(พล.ท.ธรรมนูญ วิถี)
นอกจากนี้ ‘บิ๊กหนุ่ย’พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1จะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ‘บิ๊กต่อ’พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์รองแม่ทัพภาคที่ 1 ขยับเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 ‘บิ๊กอ๊อบ’พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.พล.1 รอ. และ พล.ต.สุวิทย์ เกตุศรี ผบ.พล.ม.2 รอ. จะมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านการฝึกหลักสูตร ‘ทหารมหาดเล็กราชวัลลภ’ มาด้วย
อีกจุดสำคัญคือตำแหน่งต่างๆใน ร.ร.นายร้อย จปร. โดยคาดว่า พล.ต.ณัฐวุฒิ ชุณหะนันทน์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 จะขึ้นเป็น ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดย พล.ต.ณัฐวุฒิ เป็น ตท.21 ที่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมรุ่นถึงฝีมือต่างๆ ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ก็มีความใกล้ชิดกับ ตท.21 เพราะรุ่นติดกัน อีกทั้ง ‘บิ๊กเล็ก’พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. โยกไปเป็น รองผบ.รร.จปร. เพื่อเสริมทัพกับ พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว ที่เป็น รองผบ.รร.จปร. แต่เดิม โดย พล.ต.ปิยพงศ์ และ พล.ต.เอกรัตน์ ได้ผ่านการฝึกหลักสูตร ‘ทหารมหาดเล็กราชวัลลภ’ มาแล้วด้วย
ในส่วนของ ‘บก.กองทัพไทย’ เกิดปรากฏการณ์ข้ามห้วยขึ้น แม้ ‘บิ๊กกบ’พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.สูงสุด จะเกษียณฯปี 2563แต่ก็เริ่มเห็นทิศทาง ผบ.ทหารสูงสุด คนต่อไป หลังชื่อ ‘บิ๊กแก้ว’พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ (ตท.21) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. เติบโตมาจากสายทหารม้า อดีต ผบ.พล.ม.2 รอ.จะข้ามห้วยมาเป็น ‘เสนาธิการทหาร’ ที่ บก.กองทัพไทย เพื่อจ่อขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด คนต่อไป โดยความชัดเจนนี้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ พล.อ.เฉลิมพล อดีต รองเสธ.ทบ. ที่ขยับขึ้นมาเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. เพื่อครองอัตรา ‘พลเอก’ ในโผโยกย้ายนายทหารกลางปี เม.ย.62
(พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์)
ซึ่งที่ผ่านมาไลน์การเติบโตขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ล้วนมาจากสายที่ถูกวางไว้ตั้งแต่ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร สมัยเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ตั้งแต่ปี2554 รวม 6 คน จึงเป็นปรากฏการณ์สำคัญ ซึ่งพล.อ.เฉลิมพล ดำรงตำแหน่งเป็น รองผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย และผ่านการฝึกหลักสูตร ‘ทหารมหาดเล็กราชวัลลภ’ มาด้วย
ทั้งหมดนี้ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของรั้ว กองทัพบก , ร.ร.นายร้อย จปร. และ บก.กองทัพไทย ในอนาคตรวมทั้งสะท้อนภาพกองทัพที่เป็นเอกภาพมากขึ้น การแบ่งสายทหารเช่นในอดีตเลือนหายไป
โดยเฉพาะ ทบ. ที่เคยแบ่งสายวงศ์เทวัญ-บูรพาพยัคฆ์ก็ลดลงไป แต่บทบาทสำคัญของทหารที่ขึ้นคุมกองทัพ ยังคงอยู่ที่ ทภ.1 ที่มีหน่วยกำลังรบสำคัญตั้งอยู่ทั้ง พล.1 รอ. ,พล.ร.2 รอ. เป็นต้น การจัดโผทหารชั้นนายพลครั้งนี้ ก็สะท้อนภาพกองทัพในอนาคตได้อย่างน้อย 2-3 ปีเลยทีเดียว