เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการค้าประเวณีเด็ก ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังมีรองอธิบดีกรมเด็กฯ เข้าไปพัวพัน ว่า วานนี้คณะผู้บริหาร พม.ทั้งหมดประชุมและได้มีการตั้งทีมเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) ตนจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วยตัวเอง
พร้อมชี้แจงว่า ตามระเบียบจะต้องคณะกรรมการที่เป็นข้าราชการขึ้นมาตรวจสอบเท่านั้น ไม่สามารถตั้งคนนอกเข้ามาตรวจสอบได้ แต่จะมีผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมฟังการสอบสวน เพื่อความโปร่งใส และให้ประชาชนมั่นใจว่า ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
จุติ ยังชี้แจงอีกว่า รองอธิบดีที่ถูกกล่าวหานั้น เป็นการกล่าวหาว่าเข้าไปขัดขวางกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น และตนไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นเรื่องการเมือง เพราะความจริงแล้ว เรื่องนี้กระทรวง พม.เป็นผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่เดือน พ.ย.2564 จึงไม่มีเหตุผลที่กระทรวง พม. จะปิดบัง จึงไม่อยากให้เป็นเกมการเมืองมากเกินไป โดยขอให้รอผลการดำเนินการของคณะกรรมการในการสอบสวน ถ้าผลออกมาอย่างไรจะแจ้งให้ประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามย้ำที่บอกว่าถูกโยงไปเกี่ยวข้องกับการเมืองมีเรื่องอะไรบ้าง จุติ ระบุว่า มีความพยายามนำมาเป็นประเด็นการเมือง จนทำให้ข้อเท็จจริงสับสนไปหมด ทั้งนี้การกล่าวหาว่ากระทรวง พม.ปิดบัง ทั้งที่กระทรวงเป็นผู้แจ้งความ อีกทั้งเรื่องนี้ไม่มีการเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศของเด็กที่อยู่ในบ้าน แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน ส่วนเด็กในบ้านวันนี้ก็ทางกระทรวงยุติธรรม ก็ได้นำไปอยู่ในกลุ่มการคุ้มครองพยาน ส่วนที่เหลือก็จะขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าอารักขา และแยกตัวออกจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกับการเลือกตั้งในสนามผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือไม่นั้น รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ระบุว่า ตนเป็นคนพูดเองว่าไม่อยากให้โยงการเมือง ก็จะไม่ขอตอบในประเด็นการเมือง แต่ยืนยันว่าจะแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทุกอย่างตรงไปตรงมาและสามารถตรวจสอบได้
พร้อมย้ำว่า หากมีการสอบสวนแล้วมีข้าราชการรายได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการทั้งหมด และเบื้องต้นข้าราชการ 3 ราย ที่เกี่ยวข้อง ก็ให้การอยู่ที่กระทรวง พม.
เมื่อถามย้ำว่า รองอธิบดีที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องออกจากตำแหน่งระหว่างการสอบสวนหรือไม่นั้น จุติ กล่าวว่า ขอให้รอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง หากไปตัดสินก่อนที่จะสอบสวนเสร็จ จะฟ้องดำเนินคดีได้