ท่าทีของภาคเอกชนในต่างประเทศเริ่มหันกลับมาสนับสนุน 'หัวเว่ย' เหมือนเดิม หลัง โดนัลล์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมอ่อนข้อให้บริษัทสัญชาติอเมริกันสามารถขายส่วนประกอบให้กับ 'หัวเว่ย' ได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีความพยายามขอความร่วมมือจากกลุ่มประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ ให้ระงับความร่วมมือและการดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ย

ล่าสุด ผู้ให้บริการโครงข่ายสัญญาณ 5จี ของอังกฤษทั้ง 4 ราย ก็ยังร่วมมือกับหัวเว่ยในการพัฒนาสัญญาณ 5 จี ในประเทศ แม้รัฐบาลอังกฤษยังไม่ได้มีคำอนุญาตให้ใช้สินค้าจากหัวเว่ยอย่างเป็นทางการก็ตาม 

เดอะการ์เดียน หนังสือพิมพ์ของสหราชอาณาจักร รายงานว่า หัวเว่ย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างโครงข่าย 5จี ของ 'โวดาโฟน' ใน 6 จาก 7 เมืองของอังกฤษ นอกจากนี้บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติจีนยังมีส่วนในการสร้างไซต์งานกว่าร้อยแห่งให้กับ 'อีอี' และยังชนะสัญญาการสร้างโครงข่ายให้กับ 'ทรี' และ 'โอทู' อีกด้วย

การตัดสินใจใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่าย 5จี แม้จะไม่ใช่ในชิ้นส่วนสำคัญเป็นการเดิมพันอย่างสูงของบริษัทผู้ให้บริการสัญญาณของอังกฤษ เพราะถ้ารัฐบาลเกิดประกาศไม่ให้ใช้ขึ้นมาจริงการลงทุนหลายอย่างคงเสียไปเปล่าไปไม่น้อย

"ถ้าเราต้องแบนหัวเว่ยและใช้ได้แค่อีริกสัน เราคงต้องเผชิญกับวันที่สัญญาณโทรศัพท์ไม่เพียงพอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี" แมทธิว โฮเวต จากสภาที่ปรึกษา กล่าว

อย่างไรก็ตาม สภาที่ปรึกษามองว่า การสั่งห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์จากหัวเว่ยจะทำให้อังกฤษต้องเผชิญหน้ากับความล่าช้าในการพัฒนาราว 18 ถึง 24 เดือน ซึ่งจะทำให้อังกฤษไม่สามารถเป็นประเทศผู้นำด้าน 5จี ได้ โดยผลลัพธ์ดังกล่าวนอกจากจะขัดกับเป้าหมายของรัฐบาลยังหมายถึงเม็ดเงินระหว่าง 4.5 - 6.8 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.7 - 2.6 แสนล้านบาท ที่จะกระทบกับเศรษฐกิจอังกฤษ

สุดท้ายแล้วคงต้องรอดูว่ารัฐบาลอังกฤษจะเลือกอะไรระหว่างการพัฒนาของประเทศหรือความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ

อ้างอิง; The Guardian, Engadget