ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ว่าราชการเชียงใหม่ สั่งคุมเข้มไฟป่า เหตุยังพบลอบเผาป่าต่อเนื่อง ขณะจับกุมมือเผาได้แล้ว 142 ราย ชี้ 1-2 เดือนนี้หากสถานการณ์ยังรุนแรง อาจสั่งปิดป่า

สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบจุดความร้อนสะสมจากดาวเทียมระบบะเวียร์ (VIRS) จำนวน 4,372 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 2,356 จุด , พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 1,782 จุด , เขต สปก. จำนวน 112 จุด , เขตพื้นที่การเกษตร จำนวน 32 จุด , ริมทางหลวง จำนวน 1 จุด และพื้นที่ชุมชนและอื่นๆ จำนวน 89 จุด อำเภอที่มีจุดความร้อนสะสมมากที่สุด 3 อำเภอแรกคือ ฮอด, ดอยเต่า และจอมทอง

ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ได้จับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเผาได้จำนวน 142 ราย แยกเป็น พ.ร.บ.สาธารณสุข 16 ราย , พ.ร.บ.จราจร 53 ราย และ พ.ร.บ.ป่าไม้ 73 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงินรวม 28,200 บาท ส่วน พ.ร.บ.ป่าไม้ 73 ราย อยู่ระหว่างการสืบหาตัวผู้กระทำความผิด

โดยตั้งแต่วันที่ 1 - 24 กุมภาพันธ์ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เกินมาตรฐาน จำนวน 12 วัน อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ จะเริ่มมีกระแสลมพัดจากทิศใต้-เหนือ ทำให้มลพิษหมอกควันที่ปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่บางส่วนเบาบางลง และคุณภาพอากาศจะดีเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย 

vlcsnap-2020-02-26-10h29m40s127.png

ส่วนวันนี้ ( 26 ก.พ.2563) พบว่าค่าPM 2.5 ยังเกินมาตรฐานหลายพื้นที่ จากการตรวจสอบแอปพลิเคชั่น air CMI ที่ตรวจวัดและรายงานสภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่มีค่า พีเอ็ม 2.5 อยู่ที่ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 

ขณะเดียวกันพบมีอำเภอที่ค่าPM 2.5 พุ่งสูงจนอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 อำเภอ คือ อำเภอแม่ริม ค่าPM 2.5 อยู่ที่ 124 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอำเภออมก๋อย ค่าPM 2.5 อยู่ที่ 140 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ล่าสุดจังหวัดได้ประชุมเพื่่อประเมินสถานการณ์ในห้วง 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมปรับแผนรับมือกับสถานการณ์ในอีก 2 เดือนข้างหน้าที่คาดว่าสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้น

อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่นสภาพภูมิอากาศและทิศทางของลม ที่พัดมาจากจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ค่าPM 2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่องจนส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน จึงต้องมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มข้น แม้จะถูกมองว่าเป็นการรังแกประชาชน แต่ก็จำเป็นต้องจับกุมและดำเนินคดีทุกราย เพื่อควบคุมไม่ให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น

สำหรับข้อพิจารณาเรื่องการปิดป่า ในห้วง 1-2 เดือนนับจากนี้ หากประเมินสถานการณ์แล้วพบว่ายังรุนแรง อาจมีจำเป็นต้องประกาศปิดป่า งดเว้นห้ามเข้าไปในพื้นที่ป่า เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการลักลอบเข้าไปเผาป่า


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :