นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ Human Right Watch หรือ HRW ประจำประเทศไทย กล่าวในวงเสวนา ผ่ากระแสการเลือกตั้ง 2019: การเมืองเปรียบเทียบในอุษาคเนย์ ว่า ในอาเซียน ประเทศไทยล้าหลังที่สุด เพราะวันเลือกตั้งยังไม่สามารถพูดให้ชัดได้ จึงทำให้อยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ ที่ทำให้มีผลต่อความน่าเชื่อถือของนานาชาติ
ขณะที่มวลชนได้แตกออกเป็นสองฝั่งที่ต้องการเลือกตั้งและหันหลังให้การเลือกตั้ง จึงทำให้ต้องตั้งคำถามถึงเวลาที่เรามีฉันทามติร่วมกันต่อการเลือกตั้งหรือยัง เพื่อให้ทุกฝ่ายมาแลกเปลี่ยนร่วมกันหาทางออก
ส่วนท่าทีของผู้นำกองทัพ ออกมาระบุถึงเพลงปลุกใจ มันเหมือนเป็นการตอกย้ำความกลัว เพราะบทเพลงเหล่านี้เคยใช้ในการปลุกระดมและเข้าปราบปรามนักศึกษา
"การเลือกตั้งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่เป็นตัวสะท้อนที่ดีที่สุดว่าทุกคนเท่าเทียมกันหมด ซึ่งไทยต้องรับกติกานี้ และทุกคนต้องแสดงความคิดเห็นอย่างสันติโดยมีอิสระ และมีเสรีภาพในการชุมนุม เสรีภาพในการแสดงออก ที่ไม่ถูกจำกัดโดยอำนาจของคสช."
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่มีเดิมพันสูงภายใต้กติกาที่บิดเบี้ยว ว่าคนจะเอาชนะได้อย่างไร และหากชนะจริง ก็มีความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์รัฐประหารซ้ำรอยอดีตอีกหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: