หนังสือพิมพ์หัวหลักของสหราชอาณาจักรอย่าง i, The Times, The Daily Express, The Daily Mirror, The Sun, The Financial Times, The Daily Mail, The Daily Telegraph, The Guardian, The Metro, และ The Daily Star ต่างพาดหัวข่าวถึงเหตุการณ์การยิงขีปนาวุธของรัสเซียมาตกใกล้พรมแดนโปแลนด์ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 130 ราย

หนังสือพิมพ์ i พาดหัว “ปูตินโจมตีลากสงครามมาหน้าประตู NATO”

เมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) ขีปนาวุธ 30 ลูกของรัสเซียเล็งเป้าหมายมาตกที่ศูนย์การรักษาสันติภาพและความมั่นคงนานาชาติ หรือชื่อเก่าว่าศูนย์ฝึกทหารยาโวริฟที่ตั้งอยู่ในยูเครน อย่างไรก็ดี ขีปนาวุธบางหัวสามารถถูกยิงสะกัดโดยระบบป้องกันทางอากาศได้สำเร็จ ทั้งนี้ ฐานทางการทหารดังกล่าวอยู่ห่างออกไปจากพรมแดนโปแลนด์เพียงแค่ 25 กิโลเมตรเท่านั้น

การยิงขีปนาวุธโดยเครื่องบินรัสเซียใกล้พรมแดนโปแลนด์ถูกตีความว่าเป็นความพยายามในการยั่วยุ NATO จากทางฝั่งรัสเซีย ซึ่งอาจทำให้ NATO เข้าใกล้กับการเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรงท่ามกลางความขัดแย้งในครั้งนี้ ในขณะที่ NATO และสหรัฐฯ เองประกาศมาโดยตลอดว่า พันธมิตรตะวันตกพยายามจะเลี่ยงการมีความขัดแย้งโดยตรงกับทางรัสเซีย

หนังสือพิมพ์ The Times พาดหัว “สงครามมาเยือนพรมแดน NATO”

หนังสือพิมพ์ The Daily Express พาดหัว “ขีปนาวุธปูตินยิงถล่มลากสงครามถึงพรมแดน NATO”

หนังสือพิมพ์ The Daily Mirror พาดหัว “ตะวันตกอยู่ในสายตาของเขา…”

หนังสือพิมพ์ The Sun พาดหัว “ปูตินโจมตีฟ้าแลบที่พรมแดน NATO ฐานทัพถูกระเบิด 11 ไมล์จากโปแลนด์”

ตามกฎบัตรข้อที่ห้าของ NATO ในด้านความมั่นคงร่วมกันระบุชี้ชัดว่า ชาติสมาชิก NATO ทั้งหมดมีพันธกรณีที่จะต้องเข้าปกป้องชาติพันธมิตร NATO ด้วยกันจากการถูกโจมตี ทั้งนี้ ยูเครนได้เรียกร้องขอให้ NATO ประกาศเขตห้ามบินเหนือยูเครน เพื่อให้เครื่องบินของรัสเซียไม่สามารถบินเหนือน่านฟ้าของยูเครนเพื่อทำการทิ้งระเบิดได้ อย่างไรก็ดี ชาติพันมิตรตะวันตกปฏิเสธคำขอดังกล่าวของยูเครน เพื่อเลี่ยงการมีความขัดแย้งโดยตรง

หากรัสเซียทำการโจมตีประเทศใดประเทศหนึ่งที่เป็นสมาชิก NATO ขึ้นมา การโจมตีดังกล่าวอาจทำให้สงครามในครั้งนี้ทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจทำให้ชาติสมาชิก NATO เข้าร่วมสงครามในระลอกต่อมา เพื่อร่วมป้องกันพันธมิตร NATO จากการโจมตีของรัสเซีย

ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ออกมาประกาศเตือนชาติพันธมิตรตะวันตกว่า การประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน จะเท่ากับการประกาศสงครามต่อรัสเซียโดยปริยาย ในขณะที่รัสเซียพยายามกล่าวโจมตีการมอบเงินและอาวุธสนับสนุนยูเครนจากทางพันธมิตรตะวันตกมาโดยตลอด

หนังสือพิมพ์ The Financial Times พาดหัว “รัสเซียโจมตีฐานทัพยูเครนตะวันตก ส่งสัญญาณเตือนถึง NATO”

หนังสือพิมพ์ The Daily Mail พาดหัว “สัญญาณความตายจากปูตินแด่ตะวันตก”

หนังสือพิมพ์ The Daily Telegraph พาดหัว “สหรัฐฯ เตือนปูตินหลังเขาลากสงครามมายังตะวันตก”

ในวันนี้ (14 มี.ค.) จะมีการเจรจาหารือระหว่างยูเครนและรัสเซียอีกครั้งทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อหาทางยุติการรุกรานต่อยูเครนที่รัสเซียอ้างว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” โดยทั่วโลกต่างจับตามองว่าการเจรจาในครั้งนี้จะช่วยยุติสงครามลงหรือไม่

อย่างไรก็ดี รัสเซียเสนอให้ยูเครนแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนเองเพื่อให้ยูเครนเป็นกลาง และไม่เข้าร่วม NATO อีกทั้งประกาศรับรองเอกราชให้แก่สามพื้นที่ในทางตะวันออกของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ในขณะที่ยูเครนปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวของรัสเซีย พร้อมวิจารณ์ว่าข้อเสนอจากทางรัสเซียนั้นไม่ต่างอะไรไปจากข้อเสนอให้ยูเครนยอมแพ้ และยูเครนย้ำว่าตนจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

หนังสือพิมพ์ The Guardian พาดหัว “รัสเซียยกระดับสงครามในยูเครนด้วยการโจมตีใกล้กับพรมแดน NATO”

หนังสือพิมพ์ The Metro พาดหัว “เมื่อสงครามปูตินเดือดดาน… ผู้ลี้ภัยต้องการพวกคุณ”

หนังสือพิมพ์ The Daily Star พาดหัว “สยอง: ปูตินป่วย ความโกรธเคืองของวลาด”

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/blogs-the-papers-60731666

https://www.politico.eu/article/russia-missile-ukraine-base-10-miles-poland-nato/

https://www.rferl.org/a/russia-missiles-base-ukrainian-border/31750540.html