สำนักข่าวไทย รายงานว่า สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดเหตุก๊าซธรรมชาติรั่วและเกิดเพลิงไหม้ที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบระบบท่อขนส่งพลังงานทั้งระบบ ทั้งท่อน้ำมันปิโตรเลียม และระบบท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติเพื่อให้มีการปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด ส่วนการหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต้องรอผู้เชี่ยวชาญสรุป โดยขณะนี้ ปตท.ส่งชิ้นส่วนท่อส่งก๊าซฯ ไปตรวจสอบ ณ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) วิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริง โดยจากการเข้าไปดูในพื้นที่ก็พบว่า ใกล้แนวท่อ มีพื้นที่ก่อสร้าง งานของผู้รับเหมาก่อสร้างถนน ก็คงต้องตรวจสอบว่ามีการนำเครื่องจักรหนักไปดำเนินการใดๆ หรือไม่

“กกพ.จะต้องไปดูว่ามีพื้นที่ไหนเสี่ยงในลักษณะที่มีชุมชนขยายตัวเพิ่มขึ้นแล้วอาจเป็นอันตรายในอนาคต ต้องไปดูไม่ให้เกิดการรุกล้ำ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และกฏระเบียบ นอกจากเข้มงวดแล้วต้องเพิ่มเติมรายละเอียดหรือไม่ ไม่ใช่วัวหายแล้วล้อมคอกต่อไปจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก” สุพัฒนพงษ์ กล่าว

สุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ปตท. มีการกำหนดมาตรฐานการตรวจสอบ บำรุงรักษา และเฝ้าระวังแนวท่อส่งก๊าซฯ ที่เข้มข้นอย่างสม่ำเสมอ ตามมาตรฐานสากล เน้นความปลอดภัยสูงสุดเป็นสำคัญ โดยกรณีการใช้ท่อก๊าซ เป็นระยะเวลานานนาน เพื่อลดความเสี่ยงจากแรงดันก๊าซ ท่อนั้นๆ ก็จะมีลดปริมาณการขนส่งลง ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน

ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร ปตท. คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะทราบสาเหตุที่ชัดเจนว่า เกิดจากอะไร อย่างไรก็ตาม พบว่าในพื้น มีการก่อสร้างถนน โดยเอกชน ที่รับเหมางานจากกรมทางหลวงชนบท ที่ผ่านมาไม่ได้มีการแจ้งก่อสร้างใกล้พื้นที่แนวท่อก๊าซ ซึ่งตามกฏหมายแล้ว จะต้องแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ สำนักงาน กกพ. และแจ้งต่อ ปตท. เพื่อวางแผนทำงานร่วมกันในการป้องกันระวังไม่ให้กระทบแนวท่อ ซึ่งอุบัติภัยครั้งนี้นับเป็นบทเรียน จึงขอความร่วมมือทุกฝ่าย โดยเฉพาะบุคคลที่สาม หากจะเข้าดำเนินการใดใดตามแนวท่อข้อให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด และ ได้กำชับ เจ้าหน้าที่ ปตท. ตรวจสอบแนวท่อก๊าซอื่นๆกรณีมีบุคคลที่สามเข้ามากระทำการใด ๆ ในพื้นที่ แม้จะแจ้ง ต่อ กกพ.หรือไม่ก็ตาม

นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ธพ.ได้รับแจ้ง จาก ปตท. ว่า สาเหตุการรั่วของท่อที่ จ.สมุทรปราการนั้น ทาง ปตท.แจ้งว่า คาดว่าจะรู้ผลอย่างเป็นทางการกลางเดือน พ.ย. ส่วนการซ่อมท่อก๊าซฯจุดที่เสียหาย ขณะนี้ทราบว่า ปตท.ซ่อมเสร็จแล้ว ส่วนจะเปิดใช้ได้ก็ต่อเมื่อ ปตท. ต้องแจ้งขออนุมัติจากกรมธุรกิจพลังงานเสียก่อน ซึ่งหากเสนอมาและมีการตรวจสอบความปลอดภัยเสร็จสิ้นก็จะอนุมัติให้เปิดใช้ภายใน 5 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• สภาวิศวกรประเมินเบื้องต้น 'ท่อฉีดขาด' สาเหตุก๊าซรั่วบางบ่อระเบิด
• เกิดเหตุท่อส่งก๊าซ ปตท.รั่ว ห่างนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย 5 กม.
• สธ.เผยผู้บาดเจ็บจากกรณีท่อส่งก๊าซระเบิด รักษาตัวอยู่ในรพ. 24 ราย กลับบ้านได้ 38 ราย