นางสาวชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการต่อสู้คดีและเรียกร้องความเป็นธรรม หลังออกมาเปิดเผยว่าบัญชีการแจ้งยอดหนี้ ของธกส.ในโครงการรับจำนำข้าว ส่อว่าจะคลาดเคลื่อน รวมถึงพบความผิดปกติ ในขั้นตอนการจ่ายเงินตามใบประทวน
โดยระบุว่า เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการบอร์ด เพื่อให้พิจารณาถึงความไม่เป็นธรรม อยู่ระหว่างการขอเอกสาร จากนั้นจะเป็นการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแรงงาน หลังก่อนหน้านี้คำร้องที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรมถูกยกฟ้อง พร้อมยืนยันว่าข้อมูลที่นำมาเปิดเผยไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นปกติวิสัย แต่เป็นข้อมูลที่ผิดปกติ และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรและช่วยรักษาผลประโยชน์ของรัฐ
นางสาวชญาดา กล่าวว่า การถูกแขวนตำแหน่งกว่า 3 ปี ไม่ต่างจากการถูกลงโทษ และเชื่อว่าสังคมต้องการพิสูจน์หลักฐาน อย่าปล่อยให้เรื่องดังกล่าวจบลงแบบไม่ชัดเจน และยืนยันด้วยว่าไม่ได้มีความผิดปกติทางจิต และไม่จำเป็นต้องเข้าโครงการรักษาสุขภาพเพื่อไปพบจิตแพทย์ถึง 3 โรงพยาบาล ตามที่ผู้บริหารดำเนินการ พร้อมชี้แจงเพิ่มเติมว่า เหตุที่ต้องไปพบจิตแพทย์ เพราะถูกกดดันให้เข้าโครงการรักษาสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ผลการวินิจฉัยโดยแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ไม่พบความผิดปกติทางจิต แต่อาจมีความวิตกกังวลจากการทำงานเท่านั้น จึงเรียกร้องถึงผู้บริหารธนาคาร ธกส.ว่าขอให้ยินยอม การคัดสำเนาสอบสวนทั้ง 3 ชุด เพราะที่ผ่านมา ได้รับเพียงรายงานการสอบสวน ซึ่งมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน ไม่สามารถนำไปใช้ในการอุทธรณ์คดีได้ ซึ่งต้องดำเนินการภายในวันที่ 5 กันยายน 2561 ขณะเดียวกัน ได้สื่อสารถึงคณะกรรมการร้องทุกข์ของ ธกส. ขอความเห็นใจพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นธรรม
นอกจากนี้ยังยืนยันว่า ในฐานะผู้ตรวจบัญชีการจ่ายเงิน ในโครงการรับจำนำข้าว และการตรวจสอบ การแจ้งยอดหนี้ของธกส.ไปยัง อคส.และ อตก. เชื่อว่าไม่ถูกต้อง อาจทำให้รัฐเสียหายสูงกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น จึงต้องการให้ผู้บริหารออกมาชี้แจงให้สังคม และตัวนางสาวชญาดา เข้าใจถึงตัวเลขที่พบความผิดปกติให้ชัดเจน
อ่านเพิ่มเติม