เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสาร2ชั้นไฟไหม้เสียหายทั้งคัน บนถนนสาย 12 แม่สอด-ตาก กม.26 บริเวณอุทยานตากสินมหาราช ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก ซึ่งรถทัวร์คันดังกล่าว โดยสารชาวเมียนมา ทั้งสิ้น 47 คน เดินทางจาก อ.แม่สอด มุ่งหน้าไปยังนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี จากอุบัติเหตุครั้งนี้เบื้องต้นมีผู้รอดชีวิต 27 คน ส่วนที่เหลือเสียชีวิต 20 ราย เจ้าหน้าที่ส่งศพผู้เสียชีวิตไปไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดแยกศพและระบุตัวตนผู้เสียชีวิต

สำหรับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัด โดยยังไม่ตัดประเด็นอะไรทิ้งไป เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมนำตัวคนขับมาสอบสวนปากคำ ตรวจสารเสพติด และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน

ภาพจาก เฟซบุ๊ก กิตติศักดิ์ ก้อย บุญจันทร์  

สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น รายงานว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทราบแล้ว โดยผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างรวดเร็วและถูกวิธี โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด และให้บริหารสถานการณ์อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะผู้ประสบเหตุเป็นบุคคลต่างด้าวจำนวนมาก การยืนยันตัวบุคคล จะต้องกระทำด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ การสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุจะต้องกระทำด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและสามารถตอบคำถามต่อสังคมได้

ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนพ.จรัล วิวัฒน์คุณูปการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก ว่า มีแรงงานชาวเมียนมาร์เสียชีวิต 20 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ในจำนวนนี้ 1 ราย อาการสาหัส มีแผลไฟไหม้รุนแรงที่บริเวณใบหน้าและลำตัว สำลักควันไฟ ส่งตัวไปรักษาที่หน่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก (Burn Unit) โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก รายที่ 2 กระดูกข้อเท้าหัก ใส่เฝือกที่ข้อเท้า กลับบ้านได้ และรายที่ 3 สูดดมควันไฟ รับตัวไว้นอนสังเกตอาการที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จังหวัดตาก ซึ่งนพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้ทีมแพทย์ดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด

นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบกรณีดังกล่าว ร และได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในส่วนที่เกี่ยวข้องนั้น 

ทั้งนี้ หน่วยงานของกระทรวงแรงงานในพื้นที่ได้ดำเนินการประสานกับนายจ้าง ในการขอข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าว เพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ สำหรับใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และให้ความช่วยเหลือตามสิทธิทางกฎหมาย โดย รมว.แรงงาน ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด 

นางเพชรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือเบื้องต้น แรงงานจะได้รับความคุ้มครองจาก จาก พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ วงเงินประกันเยียวยาค่าเสียหายศพละ 35,000 บาท บาดเจ็บตามจริงไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย หากพิสูจน์ภายหลังเป็นความรับผิดของผู้ขับขี่ บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าปลงศพเพิ่มไม่เกิน 300,000 บาท ค่ารักษาตามจริงไม่เกิน 80,000 บาท ค่าชดเชยการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้เสียชีวิตเกี่ยวกับการดำเนินการส่งศพผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ภายหลังตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้นต่อไป