ภาคีเครือข่ายคนพิการ ร่วมกับภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ จัดกิจกรรม "ปฏิบัติการ 23 ปี สิทธิที่ยังไม่เป็นจริง การต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด" ที่บริเวณลานหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ถ.แจ้งวัฒนะ โดยมีผู้พิการเข้าร่วมทำกิจกรรมกว่า 300 คน ท่ามกลางการเกาะติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกรงว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง

โดยกิจกรรมนี้นอกจากเป็นการรำลึกถึงการต่อสู้ของคนพิการในการเรียกร้องสิทธิ ด้านการขนส่งมวลชนครั้งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2538 แล้ว ยังเป็นการแสดงพลังของผู้พิการ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า 23 ปีที่ผ่านมา การปฏิบัติตามกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเต็มไปด้วยปัญหาอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน ที่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ ยังไม่สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียม ปลอดภัย และเป็นธรรม 

ดังจะเห็นได้การขาดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่มีการฟ้องร้องจนกระทั่งศาลมีคำสั่งให้บีทีเอสปรับปรุงการให้บริการสำหรับคนพิการ และล่าสุดเกิดขึ้นกับสถานีรถไฟใต้ดินสายสีม่วง เครือข่ายคนพิการจึงเดินทางมายื่นฟ้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ต่อศาลปกครองกลาง ฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการฟ้องร้องรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการฟ้องร้องเส้นทางอื่นในอนาคต

นายมานิตย์ อินทร์พิมพ์ ประธานคณะติดตามระบบราง ภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ กล่าวว่า ปัจจุบันคนพิการยังไม่สามารถเดินทางได้อย่างแท้จริง เกิดจากความเท่าเทียมที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง โดยการเลือกตั้งครั้งนี้จึงคาดหวังที่จะได้ผู้นำที่พูดแล้วทำจริง

ในกิจกรรมครั้งนี้ ตัวแทนผู้พิการได้ยื่นข้อเรียกร้องไปยังพรรคการเมืองต่างๆ โดยตัวแทนแต่ละพรรคการเมืองต่างตอบรับในข้อเรียกร้องของผู้พิการ และจะนำไปใช้เป็นนโยบายหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยนายนิกร จำนง ตัวแทนจากพรรคชาติไทยพัฒนา ย้ำว่าคนไทยทุกคนต้องเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างเท่าเทียม การร้องขอของคนพิการนอกจากแสดงให้สังคมได้เห็นว่ายังมีคนพิการอยู่แล้ว ยังเป็นการต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ ซึ่งรัฐต้องดูแล

นายธนชาติ แสงประดับธรรมโชติ ตัวแทนจากพรรคพลังพลเมืองไทย ระบุว่า หน่วยงานของรัฐกำลังบกพร่องในการทำหน้าที่ ดังจะเห็นได้จากกรณีของบีทีเอสที่ยังไม่จัดสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการตามคำสั่งศาล ขณะที่ตัวรัฐบาลเองมีหน้าที่อำนวยความสะดวกในการสร้างสิทธิขั้นพื้นฐานให้ครบถ้วน โดยที่ไม่ต้องรอให้ผู้พิการมาร้องขอ

ด้านนายจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า บริษัทเอกชนที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการของรัฐ หรือได้รับประโยชน์จากประชาชนต้องหันกลับมามองและตอบแทนสังคม โดยเฉพาะกับผู้พิการ