พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดทุจริตการเบิกจ่ายงบประมาณของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ว่า พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รายงานให้ตนได้ทราบในความคืบหน้าด้วยวาจา และตั้งกรรมการสอบวินัย ปลัดและรองปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะในช่วงต้นที่สอบมีมูลความผิด
จากนั้นในวันจันทร์ที่ 2 เม.ย. จะสรุปในภาพรวมและเอกสารทั้งหมดเพื่อความชัดเจนภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า หลังจากมีการส่งทีมลงไปตรวจสอบในพื้นที่หลายจังหวัดมีมูลทุจริต และเตรียมตั้งกรรมการตรวจสอบขั้นที่ 2 ต่อไป คาดว่าจะมีเพิ่มเติมเป็นระยะ ส่วนจะมีการสั่งย้ายใครออกนอกพื้นที่ก่อนหรือไม่นั้น ขอรอการชี้แจงรายละเอียดก่อน ล็อตแรกไม่ถือเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูแต่ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และเมื่อกรรมการสอบเบื้องต้นก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน
ด้าน พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ตนได้ลงนามในคำสั่งและมอบหมายตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และตั้งกรรมการสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นประธานกรรมการสอบสวน ซึ่งเร่งรัดให้สอบสวนให้เสร็จภายใน 30 วัน โดยสอบคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีการรายงานในข้อเท็จจริง จำนวน 26 คน แบ่งเป็นกลุ่มผู้บริการระดับสูง ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง หากผู้ใดให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เป็นข้อเท็จจริง จะกันไว้เป็นพยานเพื่อให้โทษหนักจะเป็นเบา แม้ว่าจะมีรายชื่อยู่ในการสอบสวนก็ตาม ตอนนี้อยากให้ทุกคนร่วมมือ หากมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และต้องโดนลงโทษก็จะเป็นการลงโทษตามเหตุแห่งโทษนั้น
ส่วนปลัดกระทรวงและรองปลัดกระทรวง พม.ที่เบื้องต้นพบว่ามีมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตนั้น คงกันไว้เป็นพยานได้ยาก ซึ่งต้องหาหลักฐานมาล้างข้อกล่าวหาเอง เพราะมีพยานบางคนระบุว่าต้องนำเงินไปส่งให้ แต่ต้องดูหลักฐานต่อไปว่าส่งเข้าบัญชีหรือให้เป็นเงินสด
ส่วนจะมีการซัดทอดถึงระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่มีความเชื่อมโยง เพราะอำนาจจบแค่อธิบดีเท่านั้น อำนาจไม่ถึงปลัดกระทรวงด้วยซ้ำ แต่ปลัดกระทรวงถือว่ามีอำนาจในการบริหาร คือเรื่องการกำกับดูแล
อ่านเพิ่มเติม: