ทหารเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จับมือกันก่อนจะข้ามชายแดนไปอีกฝั่งอย่างสันติ เพื่อไปตรวจสอบการถอนป้อมทหารบางส่วนใน “เขตปลอดทหาร” หรือ DMZ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำสงครามและแยกประเทศกันช่วงปี 1950

การข้ามแดนไปตรวจการถอนป้อมทหารของแต่ละฝ่ายเป็นผลมาจากการเจรจาของนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อเดือนเม.ย. ซึ่งการพบกันครั้งนั้นผู้นำทั้งสองประเทศก็เดินข้ามประเทศไปหากันเช่นกัน

การเจรจาระหว่างนายคิมและมุนตกลงกันว่าจะมีการถอนทหารบางส่วนออกจาก "เขตปลอดทหาร" ซึ่งเป็นบริเวณชายแดนที่มีทหารของทั้งสองฝ่ายประจำการอยู่จำนวนมากและเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพื่อลดความตึงเครียดทางทหารและเสริมความเชื่อมั่นระหว่างกัน โดยเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ถอนหรือระเบิดป้อมทหารบริเวณชายแดนทิ้งไปแล้ว 10 ป้อมนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า ทหารทั้งสองฝ่ายจับมือกัน แลกบุหรี่กัน และเดินข้ามชายแดนกันอย่างสันติครั้งแรก ซึ่งเกาหลีใต้หวังว่าความก้าวหน้าเล็กๆ นี้จะทำให้ทั้งสองประเทศไม่กลับไปเป็นศัตรูกันอีก และมุ่งหน้าไปสู่สันติภาพ

เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมารถไฟจากเกาหลีใต้เดินทางข้ามไปยังเกาหลีเหนือได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ หลังเกาหลีใต้สัญญาว่าจะช่วยปรับปรุงระบบรถไฟของเกาหลีเหนือให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งจะทำพิธีเกิดโครงการกันในวันที่ 26 ธ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคใหญ่อยู่ที่แผนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เนื่องจากสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีข้อตกลงยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ และยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือยังคุกคามประเทศอื่นด้วยอาวุธนิวเคลียร์อยู่ ดังนั้นหนทางไปสู่สันติภาพก็ยังคงอีกยาวไกล

ที่มา : BBC, Yonhap News