นายอาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ต กล่าวกับทีมข่าววอยซ์ ออนไลน์ ว่า เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า สิ่งที่เราพูดคุยกับบุคคลที่สองผ่านการสื่อสารต่างๆ จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ข้อความที่สนทนาโต้ตอบกันนั้น จะไม่ถูกอีกฝ่ายบันทึก หรือเก็บหลักฐานไว้หรือไม่ สิ่งเดียวที่สามารถทำได้คือ ตัวเรานั้นเชื่อใจบุคคลที่เราคุยอยู่ด้วยมากน้อยแค่ไหน เริ่มจากการประเมินด้วยตัวเองก่อน

ส่วนแอปพลิเคชั่นเพื่อใช้ในการสนทนาต่างๆ ที่บอกว่าสามารถตั้งเป็นแชทลับไว้โต้ตอบระหว่างกัน และข้อความที่ส่งถึงกันจะลบตัวเองเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ นายอาทิตย์ บอกว่า แชทลับตามแอปฯ ต่างๆ ที่ใช้กันทั่วไป แม้ข้อความจะระเบิดตัวเองเมื่อถึงเวลาหนึ่ง แต่เรามั่นใจแค่ไหนว่าบุคคลที่สองที่คุยกับเรานั้นไม่แอบคัดลอกข้อความเหล่านี้เก็บไว้ เพราะการคัดลอกข้อความในปัจจุบันสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น แคปหน้าจอ, ใช้กล้องบันทึกหน้าจอโทรศัพท์เก็บไว้ หรือบันทึกเสียงการสนทนาเก็บไว้โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตาม นายอาทิตย์ ยังบอกกับทีมวอยซ์ ออนไลน์ ว่า การนำคลิปเสียงมาใช้เพื่อเป็นหลักฐานในคดีความนั้น ต้องมีการชี้แจงอย่างละเอียดว่าได้คลิปนี้มาอย่างไร กระบวนการที่ได้มานั้นเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ และระหว่างทางมีการดัดแปลงหรือทำให้เปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่อย่างไร ซึ่งข้อนี้ศาลจะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะให้นำคลิปดังกล่าวมาใช้เป็นหลักฐานในคดีได้หรือไม่

หากไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกนำคลิปเสียง, คลิปวิดีโอ หรือข้อความสนทนาจากแอปฯ มาใช้ประกอบเป็นหลักฐานดำเนินคดี หรือป้องกันตัวเองจากการถูกคุกคามนั้น นายอาทิตย์ แนะนำว่าสามารถทำได้ คือ เมื่อถูกตรวจค้นและยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่าปล่อยให้อุปกรณ์ของเราเดินทางไปโดยลำพัง ให้ตัวเราเองหรือคนที่เราไว้ใจเดินทางไปกับอุปกรณ์นั้นด้วย และต้องมั่นใจว่าหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นไม่เคยถูกดัดแปลงแก้ไขมาก่อน ต้องมีสำเนาข้อมูลจากอุปกรณ์ของเราอย่างน้อย 3 ชุด โดย 1 ชุดใช้ในการตรวจสอบ หากหลักฐานชุดนี้ตรวจสอบเสร็จเปิดเผยในชั้นศาลแล้วถูกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นแย้ง สามารถนำหลักฐานสำเนาอีก 1 ชุดมาใช้ตรวจสอบใหม่ได้ 

นายอาทิตย์ ยังย้ำอีกว่า ตอนนี้ยังไม่มีวิธีป้องกันความลับต่างๆ ในโลกไซเบอร์ไม่ให้หลุดออกสู่ผู้ไม่หวังดีได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราไว้ใจคู่สนทนาเรามากน้อยแค่ไหนว่าเขาจะไม่นำความลับเหล่านั้นมาเปิดเผย และตัวเราเองต้องมีความยับยั้งว่าสิ่งที่กำลังเล่าให้อีกฝ่ายหนึ่งฟังนั้นเป็นเรื่องราวระดับไหน