รายงานของวอชิงตันโพสต์ชี้ว่า ความสนใจของสาธารณะต่อกีฬาดำน้ำเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้จากการเปิดเผยของสถานที่สอนดำน้ำหลายแห่งในสหรัฐฯ เช่นดักลาส เกอร์เจน เจ้าของเหมืองบอนแตร์ในมิสซูรีและมีกิจการสอนดำน้ำระบุว่า ในช่วงที่มีข่าวทีมนักฟุตบอลรุ่นเยาว์ของไทยติดอยู่ในถ้ำหลวง โดยเฉพาะในช่วงที่มีปฏิบัติการของนักดำน้ำช่วยเหลือพวกเด็กๆ เหมืองได้รับความสนใจจากบรรดาผู้ที่ต้องการจะเรียนดำน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ข่าวระบุว่าเหมืองบอนแตร์เป็นถ้ำใต้น้ำที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ เดิมเป็นเหมืองตะกั่วที่มีการใช้งานอยู่ประมาณร้อยปี นับตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1860 ในระหว่างที่ทำเหมืองต้องมีการสูบน้ำออก แต่เมื่อเลิกทำเหมืองก็ไม่มีคนสูบน้ำทำให้เหมืองทั้งหมดกลายเป็นเหมืองใต้บาดาล ตัวเหมือง ระบบการทำเหมือง แม้แต่รถเลื่อน รางรถไฟ อาคารต่างๆ น้ำพุสำหรับน้ำดื่ม โรงหนัง ห้องกินอาหาร ห้องทดลองทางธรณีวิทยา ร้านเครื่องมือ เรียกว่าเป็นชุมชนหนึ่งก็ว่าได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนจมอยู่ใต้น้ำและกลายเป็นสถานที่ให้นักดำน้ำไปสำรวจ นักดำน้ำที่จะลงดำเพื่อสำรวจถ้ำใต้น้ำฝีมือมนุษย์เหล่านี้ ต้องมีใบอนุญาติดำน้ำในน่านน้ำแบบเปิด เกอร์เจนที่เป็นเจ้าของเหมืองมีกิจการสอนดำน้ำ การดำน้ำในน่านน้ำเปิดเป็นจุดเริ่มต้นของคนที่อยากจะดำน้ำในถ้ำใต้น้ำซึ่งมีความสลับซับซ้อน ต้องการความรู้และประสบการณ์สูง

นอกจากเหมืองบอนแตร์และเวสต์เอนด์ไดวิ่ง ซึ่งสอนดำน้ำแล้ว สมาคมผู้ฝึกสอนนักดำน้ำนานาชาติหรือ PADI ก็บอกเช่นกันว่าในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงในเชียงราย มีผู้แสดงความสนใจที่จะเรียนดำน้ำเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดรูว์ ริชาร์ดสัน ผู้บริหารของ PADI Worldwide บอกว่า ในระหว่างที่มีปฏิบัติการช่วยเหลือนั้น ทั่วโลกต่างจับตามองการทำงานของนักดำน้ำผู้เชี่ยวชาญของไทยและสากล เขาบอกว่าความเสียสละของผู้คนในทีมงาน การปฏิบัติการที่เกิดขึ้นกลายเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้หลายคนอยากจะเข้าไปมีส่วนร่วม

ริค เมอร์คาร์ แห่งสถาบันสอนดำน้ำอควาติก แอดเวนเจอร์ แอนเจเนซิส ไดวิ่งในฟลอริด้าบอกเช่นกันว่า ที่สถาบันเองก็พบว่ามีผู้แสดงความสนใจเรียนดำน้ำเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เกิดเหตุการณ์เช่นกัน แต่เขาเตือนว่าการดำน้ำในถ้ำเป็นเรื่องที่คนจะเรียนต้องถามตัวเองให้ดีก่อนว่าเหตุใดจึงต้องการเรียนเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่อันตราย เมอร์คาร์บอกว่า สิ่งที่คนหัดดำน้ำในถ้ำจะต้องยอมรับอย่างหนึ่งก็คือ ความเป็นไปได้ที่จะต้องเสียชีวิตจากการดำน้ำดังกล่าว อย่างไรก็ตามร็อบ แมคเคน ซึ่งเป็นครูสอนดำน้ำในฟลอริดาให้ความเห็นว่า สำหรับตัวเขา เขาติดใจการดำน้ำในถ้ำเพราะชอบกระบวนการเตรียมตัวที่จะต้องทำก่อนจะลงมือปฏิบัติ อีกอย่างคือการดำน้ำในถ้ำให้ความรู้สึกสงบ ในระหว่างที่ดำน้ำในถ้ำจะได้เห็นหินและธรรมชาติที่อาจจะไม่เคยมีใครไปสัมผัสเลยเป็นเวลาหลายพันปี แต่เขายอมรับว่าการจะไปให้ถึงจุดนั้นได้ นักดำน้ำจะต้องสละเวลาและมีความมุ่งมั่นอย่างมากในการเรียนรู้ เขาชี้ว่า การเรียนดำน้ำแบบนี้ต้องใช้เวลาในน่านน้ำเปิดรวมทั้งสะสมทักษะก่อนจะไปถึงการดำน้ำในถ้ำได้ รวมๆ แล้วจะเป็นเวลาราวห้าปี

ที่มา Washington Post