ไม่พบผลการค้นหา
ทางการอิตาลีเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง หลังจาก 'สะพานแขวนโมรันดี' พังถล่มเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 26 ราย แต่ตัวเลขอาจปรับเพิ่ม ส่วนผู้เชี่ยวชาญเตือน ยังมีสะพานเก่าอีกมากทั่วโลก ต้องตรวจสอบ-บูรณะซ่อมแซม ป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย

จูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ลงพื้นที่เกิดเหตุสะพานแขวนถล่ม ช่วงเช้าวันนี้ (15 ส.ค.) พร้อมสั่งสอบสวนสาเหตุที่ทำให้สะพานถล่ม หลังมีรายงานว่าโครงสร้างสะพานอาจได้รับผลกระทบจากพายุฝนกระหน่ำรุนแรงในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ ประกอบกับสะพานบางส่วนอยู่ระหว่างบูรณะซ่อมแซม ทำให้ไม่สามารถต้านทานลมพายุได้ 

ขณะเกิดเหตุสะพานถล่มเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) มีรถยนต์และรถบรรทุกอยู่บนสะพานหลายคัน แต่ผู้ขับรถบรรทุกรายหนึ่งรอดชีวิตมาได้ เพราะหยุดรถได้ก่อนจะถึงจุดที่สะพานถล่ม แต่ผู้ขับขี่ยานพาหนะอื่นๆ ที่ตกกระแทกพื้นจากความสูงราว 80 เมตร ส่วนใหญ่เสียชีวิต แต่มี 2 รายที่รอดชีวิตและได้รับการช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุว่าอาจจะยังมีผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกเป็นจำนวนมาก จึงเกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอาจเพิ่มขึ้นอีก

เหตุการณ์สะพานถล่มครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในอิตาลี แต่เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา

โศกนาฏกรรมสะพานถล่ม 'ป้องกันยาก'

สื่ออิตาลีรายงานว่า สะพานแขวนโมรันดี ก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2510 และต้องรองรับรถยนต์ที่สัญจรไปมาวันละมากกว่า 60,000 คัน ซึ่งถือว่ายังโชคดีที่ขณะเกิดเหตุสะพานถล่มไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วน ทำให้ปริมาณรถไม่หนาแน่นมากนัก

AFP-สะพานถล่ม-สะพานเมืองเจนัวถล่ม-อิตาลี-ทางยกระดับถล่ม

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเตือนว่ายังมีสะพานอีกหลายแห่งทั่วอิตาลี รวมถึงสะพานอื่นๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคเดียวกันในยุโรปและทวีปอื่นๆ โดยสะพานเหล่านี้แม้จะมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีการออกแบบที่ดี แต่ก็ผ่านการใช้งานมานานหลายสิบปี แต่กลับไม่มีการตรวจสอบหรือบูรณะซ่อมแซมที่เพียงพอ เป็นผลจากการขาดบุคลากรและขาดงบประมาณในหลายประเทศ

ส่วนเหตุการณ์สะพานถล่มที่ร้ายแรงในประเทศอื่นๆ ที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ ได้แก่ กรณีสะพานข้ามทางหลวงถล่มในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสะพานดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากถนนสายหลักไปยังมหาวิทยาลัยนานาชาติฟลอริดา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย

ส่วนเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา สะพานแขวนขนาดใหญ่เชื่อมต่อระหว่างกรุงโบโกตาและเมืองวิลลาวิเซนโชของประเทศโคลอมเบีย เกิดพังถล่มลงมาขณะอยู่ระหว่างก่อสร้าง ทำให้มีพนักงานก่อสร้างทางเสียชีวิต 10 ราย

และในเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว สะพานซิกิรีในเคนยา ซึ่งเป็นโครงการลงทุนของบริษัทจีน มูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถล่มลงกลางแม่น้ำขณะอยู่ระหว่างก่อสร้างเช่นเดียวกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 27 ราย 

ที่มา: CBS/ Local Italy/ Washington Post

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: