นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ประกาศสนับสนุนพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และมีแนวโน้มจะตั้งพรรคการเมืองว่า การตั้งพรรคเป็นสิทธิของทุกคน ส่วนที่ไม่ปลดล็อกการเมือง เพราะต้องการแช่แข็งพรรคเก่านั้น ขอให้ยืดหลักธรรมาภิบาล เพราะหากเอาอำนาจรัฐมาสร้างความได้เปรียบทางการเมือง จะไม่สามารถปฏิรูปการเมืองได้
ส่วนกรณีที่มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปพบนายสมคิด ได้มีการชี้แจงแล้วว่าพูดคุยธุรกิจในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งนายสกลธี ภัททิยะกุล ได้ยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว
ขณะที่ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ต้องรอปลดล็อกพรรคการเมือง เพราะไปบวชมา ซึ่งไม่กังวลว่าสมาชิกพรรคจะถูกดึงตัวไปร่วมพรรคใหม่
ส่วนการยืนยันสมาชิกพรรคตลอด 6 วันที่ผ่านมา (1-6 เม.ย.) ยังไม่สามารถสรุปยอดได้ เพราะหลายคนยังติดธุระ ซึ่งตนเองยังไม่พอใจกับยอดสมาชิกที่มายืนยันตน และขออย่าไปมองว่าสมาชิกมากแล้วจะได้เปรียบทางการเมือง เพราะจำนวนที่มากจะเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรคนอกจากประชาชน จึงพยายามอำนวยความสะดวกเพื่อให้สมาชิกมายืนยันให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม วันนีิ้ (6 เม.ย.) เนื่องจากเป็นวันครบรอบการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ และมีการทำพิธีอิสลาม พิธีพราหมณ์ และพิธีพุทธที่พรรคประชาธิปัตย์
นายอภิสิทธิ์ กล่าวในระหว่างพิธีอิสลาม ตอนหนึ่งว่า สิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารพรรคในขณะนี้สำนึกอยู่ตลอดเวลาคือที่มาของพรรคตั้งแต่ ปี 2489 รวม 72 ปี เป็นที่มาของพรรคการเมือง ซึ่งขอยืนยันว่า มาถึงวันนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองอื่นทำได้เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อ 72 ปีที่แล้ว ทำงานการเมืองแล้วตัดสินใจว่าความมีอุดมการณ์ร่วมกันนั้น จะต้องมาทำให้เป็นระบบ จึงเกิดพรรคการเมืองที่ชื่อประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เป็นเรื่องของบุคคลใด บุคคลหนึ่ง ไม่ใช่เป็นการก่อตั้งพรรคเพื่อรองรับการเลือกตั้ง หรือเพื่อสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นแนวทางที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นหลักสากล ที่พรรคการเมืองต้องเริ่มต้นด้วยอุดมการณ์ และอุดมการณ์ดังกล่าวไม่มีการแบ่งแยกผู้คน ทุกศาสนา ทุกภาค ทุกรุ่น ก็คือประชาธิปัตย์ที่มาหลอมรวมกันโดยอุดมการณ์
"ผมแปลกใจเสมอที่เมื่อไหร่หยิบอุดมการณ์ที่เคยประกาศไว้เมื่อปี 2489 มาอ่าน เรื่องประชาธิปไตย เรื่องเศรษฐกิจที่เราเปิดโอกาสเต็มที่ แต่รัฐต้องเข้าไปแทรกแซง ถ้าหากว่าเราจะช่วยเรื่องความเป็นธรรม เรื่องกระจายอำนาจ สิ่งเหล่านี้เขียนขึ้นมาก่อนจะมีรูปแบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายสิบปี ความทันสมัยตรงนี้ทำให้ผมมั่นใจว่าเราเดินหน้ามั่นคง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯ ได้ร่วมกล่าวในพิธีอิสลามด้วยว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังจากนั้นได้ไปยืนยันสมาชิกแล้ววานนี้ (5 เม.ย.) พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคประวัติศาสตร์ ประเทศ บ้านเมือง ประชาธิปไตย ต้องมีอดีต มีปัจจุบัน และมีอนาคต แม้ยุคนี้ยุคใหม่ แต่ยุคใหม่ก็มาจากอดีต
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ตนเป็นคนยุคใหม่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ใครที่เป็นวัยรุ่นวันนี้ ก็ต้องเป็นผู้อาวุโสในวันข้างหน้า ดังนั้นเราต้องภูมิใจ ท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้ในยุคนั้นแล้วรอดชีวิตมาอยู่ในยุคนี้แล้วได้เห็นบ้านเมือง ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง เราต้องมองในทางบวก มองว่าบ้านเมืองต้องไปข้างหน้า แต่บังเอิญว่าเราสะดุดด้วยวิกฤติประชาธิปไตยในระบบธุรกิจการเมือง ซึ่งไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่เติบโตแบบธรรมชาติ ที่ควรจะเป็น
แต่ประชาธิปัตย์นั้นสร้างตัวขึ้นมาด้วยการเติมคนดีเข้ามามากขึ้นๆ ตลอดเวลา จนทุกวันนี้ก็พยายามดึงคนรุ่นใหม่เข้ามา เราคือพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และยึดมั่นในระบบรัฐสภา ที่มีสภาผู้แทนราษฎร มีประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ และเป็นผู้เลือกตัวแทนเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง ซึ่งเชื่อว่าพวกเราทั้งหลายยึดมั่นในแนวทางนี้ และขอให้มีความมั่นคงต่อไป
"ผมเป็นนักการเมืองที่อยู่ยืนหยัดมากับพรรคฯ และผมตั้งใจเป็น ส.ส. เป็นความใฝ่ฝันเดียวในชีวิต ผมเป็นคนเดียวในรุ่นที่ตัดสินใจมาเป็นนักการเมือง โดยเราเชื่อมั่นว่าวันข้างหน้ามันต้องเป็นประชาธิปไตย เราจะอยู่เฉยๆ รอให้มันเป็น หรือเราจะเข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดัน ก็เลยสละสิทธิ์ที่จะไปเป็นผู้พิพากษา แล้วตัดสินใจมาเป็นนักการเมือง แล้วก็เป็นหนี้บุญคุณประชาชนมาก เพราะได้เลือกเรามาเป็นผู้แทนฯ" นายชวน กล่าว
"ชีวิตการเมืองผมไม่ยอมให้ใครมาดูถูก เมื่อท่านประยุทธ์ บอกว่านักการเมืองเลว ไม่ดี ผมก็บอกท่านครับ ที่ท่านว่านักการเมืองเลว ไม่ดี มันก็มีจริง ทหารเลวก็มีครับ ผมก็บอกท่านตรงๆ ท่านบอกว่าท่านอย่าเหมา ท่านบอกว่าผมไม่ได้เหมา แต่เวลาท่านพูดท่านไม่เคยยกเว้น สัปดาห์นั้นละครับที่ท่านพูดว่านักการเมืองที่ดีก็มี พวกเราก็ไปไกลกันมาก" นายชวน ระบุ
ด้านนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเคยพูดไว้ในบรรยากาศอย่างนี้ว่า ทุกๆ วันที่ 6 เมษายน ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะอยู่ในลักษณะอย่างไร จะมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก จะมีรัฐประหาร จะมีเลือกตั้ง หรือไม่มีเลือกตั้ง ทุกคนมาพรรคฯ ด้วยความรัก ด้วยความผูกพัน ด้วยความเชื่อมั่นในระบบพรรคการเมือง แน่นอนว่าถ้าพรรคการเมืองมีความมั่นคง แข็งแรงมากขึ้น ประชาธิปไตยก็จะเข้มแข็งตามไปด้วย
"มีคำคมของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมท ได้พูดเอาไว้ว่า การปกครองบ้านเมืองมี 3 วิธี 1.ด้วยอำนาจ 2. ด้วยอามิส และ 3. ด้วยอุดมการณ์ ท่านบอกการเมืองที่มาด้วยอำนาจ ในที่สุดก็ย่อมจะถูกโค่นล้มด้วยอำนาจ การเมืองที่ใช้อามิสเป็นหลัก วันหนึ่งอามิสหมด เพราะไม่พอที่จะให้ตามความต้องการ การเมืองที่ยั่งยืนมั่นคงถาวร คือการเมืองที่ทำด้วยอุดมคติ แม้เจ้าของความคิด แม้ว่าตัวนักการเมืองนั้นจะล้มหายตายจากไปแล้วก็ตาม แต่การปฏิบัติตามอุดมคตินั้นจะยังอยู่ ทุกยุค ทุกสมัย ผมมีความมั่นใจว่าวันนี้เรามาที่นี่กันด้วยความมีอุดมคติ ซึ่งนั่นคือหลักการของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เรายึดมั่นมาทุกยุค ทุกสมัย"นายบัญญัติ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
'สมคิด' พลิ้ว ปัดตอบตั้งพรรคการเมือง ยืนยันหนุน 'ประยุทธ์' บริหารประเทศต่อ
'ชวน' ดักคอ 'ประยุทธ์' อย่าใช้อำนาจตีกรอบพรรคการเมือง