นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ประชาธิปัตย์ มีจุดยืนและแนวทางต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ชัดเจนตั้งแต่ต้น นับจากวันประชามติ ประชาธิปัตย์ก็มีจุดยืนไม่รับ เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย มีจุดอ่อนหลายจุด ระหว่างหาเสียงก็บอกปัญหาของรัฐธรรมนูญหลายจุดหลายประการ พอหลังการเลือกตั้งก็พบว่าเป็นเช่นนั้นจริง พอถึงการเข้าร่วมรัฐบาลประยุทธ์ การแก้รัฐธรรมนูญก็คือ 1 ใน 3 เงื่อนไขของประชาธิปัตย์ ซึ่งได้บรรจุในนโยบายเร่งด่วนข้อที่ 11 เมื่อผ่านการแถลงนโยบายระยะหนึ่ง ก็เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาการแก้ไขรธน. ซึ่งมีการเลื่อนญัตติมาพิจารณาในสมัยประชุมหน้าทันที 

"จากนี้ประชาธิปัตย์จะตั้งคณะทำงาน จำนวน 12 คน มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ทำหน้าที่รับฟังความเห็นต่อประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการรับผิดชอบต่อการเสนอแก้ไข ซึ่งอยากให้ทุกพรรคเป็นเจ้าภาพ การโหวตเห็นชอบญัตติโดยไม่คัดค้านสะท้อนการขยับที่ดี พรรคการเมืองต้องร่วมกันเคลื่อนไหว ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ตื่นตัวและมีส่วนร่วม" นายเทพไทกล่าว 

ส่วนท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมช.กลาโหม ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขนั้น นายเทพไท มองว่า ต้องแยกแยะว่าเป็นเพียงความเห็นของฝ่ายบริหาร แต่การแก้รัฐธรรมนูญอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งต้องการตั้งกมธ.ศึกษาแก้ไขในมาตรา 256 จากนั้นนำรายงานไปเสนอต่อประชาชนและรัฐบาล วันนั้นประยุทธ์เห็นแล้วอาจปรับท่าทีก็ได้ 

"ท่าทีพล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่อยากให้แก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญร่างโดยกรธ.ที่พล.อ.ประยุทธ์ตั้ง หากมาสนับสนุนการแก้ไข ก็จะเป็นการเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า ตนไม่ติดใจ แต่เข้าใจพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กังวลนั้น ก็ไม่ต้องกังวล ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้ เพราะตั้งมาแล้ว 73 ปี มีจุดยืนประชาธิปไตยชัดเจน ขอให้นายธนาธร ห่วงอนาคตใหม่ดีกว่า ไม่รู้จะรอดถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ ประชาธิปัตย์รักษาคำพูดตามคำขวัญ" นายเทพไทกล่าว 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• 'ประวิตร' ชี้แก้ รธน. ต้องทำตาม ก.ม. - อุบเปิดชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จากพปชร.